หากมีกลิ่นอับชื้นภายในบ้าน ป้องกันไม่ให้เชื้อราแพร่กระจายและทำลายบ้านหรือสุขภาพของคุณ
สารบัญ
- เชื้อราและลักษณะของเชื้อรา
- เชื้อรา 3 ชนิดที่มักพบในบ้าน
- ผลเสียของเชื้อรา
- กำจัดเชื้อราในบ้าน
- 4 เคล็ดลับในการป้องกันเชื้อราด้วยวิธีจากธรรมชาติ
- 5 วิธีป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อรา
- nanoe™ X จะยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราในขณะที่ฟังก์ชันทำความสะอาดภายในช่วยรักษาภายในเครื่องปรับอากาศของคุณให้สะอาดและสดชื่นอยู่เสมอ
เชื้อราและลักษณะของเชื้อรา
เชื้อราคือศัตรูซ่อนเร้นที่มีความทนทานและสามารถเจริญเติบโตได้ดีในสภาพแวดล้อมที่อุ่นและเปียกชื้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูที่มีความชื้นสูงและต่ำมาก เชื้อรานั้นไม่ต่างจากผู้บุกรุกอันเงียบเชียบที่คืบคลานเข้ามาในบ้านของคุณและทิ้งร่องรอยความเสียหายเอาไว้หลังจากนั้น หากปล่อยทิ้งไว้ สปอร์ของเชื้อราจะแพร่กระจายออกไปในอากาศอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะทำให้คุณภาพอากาศภายในบ้านของคุณย่ำแย่และกระตุ้นให้เกิดภูมิแพ้รวมถึงปัญหาในระบบทางเดินหายใจ
แต่เชื้อราไม่ได้หยุดการเจริญเติบโตไว้แค่บนผนังหรือเพดานของคุณเท่านั้น เชื้อราสามารถแทรกซึมเข้าไปสู่ห้องครัว รองเท้า เสื้อผ้า รวมถึงห้องนอนของคุณและทิ้งกลิ่นเหม็นอับไว้เบื้องหลัง ยิ่งไปกว่านั้น เชื้อรายังสามารถแพร่กระจายไปยังเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ในบ้าน จากนั้นจะทำลายและทิ้งร่องรอยความเสียหายราคาแพงเอาไว้
หากมีมาตรการป้องกันที่เหมาะสม คุณจะสามารถยับยั้งเชื้อราและปกป้องบ้านรวมถึงทรัพย์สินต่างๆ ของคุณได้ ในบทความนี้ เราจะมาทำความรู้จักเชื้อรากันอย่างละเอียดและแบ่งปันเคล็ดลับที่เป็นประโยชน์ในการควบคุมการเจริญเติบโตของเชื้อราเพื่อดูแลรักษาทรัพย์สินในบ้านของคุณให้ปลอดภัย
- ลักษณะและวิธีการแพร่กระจายของเชื้อรา
เชื้อราอาจมีลักษณะเป็นจุดหรือเป็นวงสีดำ ขาว เขียว หรือเทาบนพื้นผิวต่างๆ เชื้อราสามารถแพร่กระจายได้ภายใน 72 ชั่วโมง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อระดับความชื้นสูงหรือต่ำเกินไป หรือได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสำหรับการเจริญเติบโต เชื้อราคือเห็ดราชนิดหนึ่งที่มีสปอร์ขนาดเล็กซึ่งสามารถแพร่กระจายไปในอากาศ จากนั้นจึงตกลงบนพื้นผิว และเจริญเติบโตบนพื้นผิวเหล่านั้น
- เชื้อราอาศัยอยู่ที่ใด
คุณสามารถพบเชื้อราได้หลายที่ เช่น ผนัง เพดาน พื้น เฟอร์นิเจอร์ ห้องนอน เสื้อผ้า และเครื่องใช้ในบ้านอื่นๆ คุณจำเป็นต้องตรวจดูบริเวณที่เปียกชื้นหรือเกิดความชื้นได้ง่ายอย่างสม่ำเสมอ เช่น ห้องน้ำและห้องครัว และดูว่ามีสัญญาณของการเจริญเติบโตของเชื้อราหรือไม่เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อราแพร่กระจายไปยังส่วนอื่นๆ ของบ้าน
เชื้อรา 3 ชนิดที่มักพบในบ้าน
เชื้อราที่พบบ่อยที่สุดในบ้านได้แก่เชื้อราชนิดที่ก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้ ชนิดที่ก่อให้เกิดโรค และชนิดที่เป็นพิษ เชื้อราชนิดที่ก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้และชนิดที่ก่อให้เกิดโรคสามารถควบคุมได้ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ อย่างไรก็ตาม การกำจัดเชื้อราปริมาณมากจำเป็นต้องอาศัยบริการจากผู้เชี่ยวชาญด้านการกำจัดเชื้อรา เชื้อราชนิดที่เป็นพิษมีอันตรายและควรถูกทำลายและกำจัดออกไปโดยผู้เชี่ยวชาญ และต้องนำของใช้ที่มีเชื้อราไปทิ้ง1
ผลเสียของเชื้อรา
- ปัญหาสุขภาพ
ผลกระทบที่รุนแรงที่สุดอย่างหนึ่งของการเจริญเติบโตของเชื้อราคืออาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของมนุษย์ การสัมผัสกับเชื้อราอาจทำให้เกิดปฏิกิริยาภูมิแพ้ ปัญหาในระบบทางเดินหายใจ และปัญหาสุขภาพอื่นๆ
- ความเสียหายภายในบ้าน
เชื้่อราสามารถเจริญเติบโตบนพื้นผิวต่างๆ ได้ เช่น ผนัง เพดาน และพื้น ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อโครงสร้างของพื้นผิวเหล่านี้หากปล่อยทิ้งไว้
- กลิ่นไม่พึงประสงค์
เชื้อราอาจทำให้เกิดกลิ่นเหม็นอับที่ยากต่อการกำจัด กลิ่นนี้จะทำให้พื้นที่อยู่อาศัยของคุณน่าอยู่น้อยลง
- คุณภาพอากาศในบ้านที่ลดลง
เชื้อราอาจปล่อยสปอร์ออกสู่อากาศและทำให้คุณภาพอากาศในบ้านของคุณลดลง ซึ่งจะนำไปสู่ปัญหาในระบบทางเดินหายใจและปัญหาสุขภาพอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่มีอาการเจ็บป่วยอยู่ก่อนแล้ว
- ของใช้ภายในบ้านเสียหาย
เชื้อราสามารถเจริญเติบโตและสร้างความเสียหายให้ของใช้ในบ้านมากมาย เช่น เฟอร์นิเจอร์ เสื้อผ้า และเครื่องนอน ปัญหานี้อาจทำให้คุณต้องเสียเงินเป็นจำนวนมากเพื่อซื้อใหม่หรือซ่อมแซม และยังทำให้มูลค่าบ้านของคุณลดลงด้วย
กำจัดเชื้อราในบ้าน
ก่อนจัดการกับเชื้อราที่กำลังเจริญเติบโตในบ้าน คุณจะต้องแน่ใจก่อนว่ามีมาตรการที่ปลอดภัย ปกป้องมือของคุณด้วยถุงมือยางและสวมแว่นป้องกันดวงตาก่อนเริ่มดำเนินการ
1. กระเบื้องและยาแนวในห้องน้ำ 2
• ซื้อน้ำยาทำความสะอาดยาแนวหรือสารกำจัดเชื้อราจากร้านขายเครื่องมือช่าง
• ฉีดพ่นหรือราดสารกำจัดเชื้อราลงไปตามทิศทางของยาแนว
• หากจุดรายังคงอยู่ ให้ใช้ฟองน้ำที่ไม่ทำให้เกิดรอยขีดข่วนหรือแปรงขัดยาแนวขัดออก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์ที่คุณใช้
• ล้างออกด้วยน้ำร้อนแล้วเช็ดหรือปล่อยทิ้งไว้ให้แห้ง
2. ผนังและเพดาน
• จัดเตรียมน้ำยาล้างจาน น้ำยาฟอกขาวชนิดคลอรีน และฟองน้ำหรือแปรงที่ไม่ทำให้เกิดรอยขีดข่วนเอาไว้ให้พร้อม
• ทำความสะอาดพื้นผิวด้วยน้ำผสมน้ำยาล้างจานเล็กน้อย จากนั้นจึงใช้ฟองน้ำหรือแปรงจุ่มสารละลายแล้วขัดถูในลักษณะวนเป็นวงกลมเล็กๆ
• ล้างฟองน้ำและเช็ดพื้นผิวให้สะอาดด้วยน้ำเปล่า ทิ้งไว้ให้แห้งสนิท
• ผสมน้ำยาฟอกขาวชนิดคลอรีน ¾ ถ้วยในน้ำอุ่น 1 แกลลอน ใช้ส่วนผสมของน้ำและน้ำยาฟอกขาวในการกำจัดคราบด้วยฟองน้ำหรือแปรงทำความสะอาด* ทิ้งไว้ 5 นาทีเพื่อให้น้ำยาซึมเข้าไปในจุดที่มีเชื้อรา ใช้ฟองน้ำหรือแปรงขัดในลักษณะวนเป็นวงกลมเล็กๆ อย่างเบามือ
• ใช้น้ำอุ่นล้างบริเวณดังกล่าวและซับด้วยผ้าสะอาดก่อนทิ้งไว้ให้แห้งสนิท
3. เชื้อราบนเนื้อไม้
• เตรียมเครื่องดูดฝุ่นที่มีฟิลเตอร์ HEPA น้ำยาล้างจาน ฟองน้ำที่ไม่ทำให้เกิดรอยขีดข่วน ผ้าสำหรับเช็ดทำความสะอาด และผ้าแห้งเอาไว้ให้พร้อม
• ใช้เครื่องดูดฝุ่นที่มีฟิลเตอร์ HEPA และติดหัวแปรงชนิดนุ่มทำความสะอาดบริเวณที่มีจุดราหลายๆ ครั้ง
• ผสมน้ำกับน้ำยาล้างจานเล็กน้อยและใช้ฟองน้ำป้ายส่วนผสมลงไปบนพื้นผิว
• เช็ดออกด้วยผ้าสะอาดชุบน้ำหมาดๆ จากนั้นเช็ดพื้นผิวให้สะอาด
• อย่าปล่อยให้ไม้เปียกชื้นเป็นระยะเวลานาน ควรใช้ผ้าสะอาดเช็ดให้แห้งโดยเร็ว
4. เชื้อราบนเส้นใยผ้าหรือเสื้อผ้า 3,4
เตรียมผ้าแห้ง กระดาษเอนกประสงค์หรือแปรง น้ำยาซักผ้า และน้ำยาฟอกขาวเอาไว้
• กำจัดเชื้อราส่วนเกินออกโดยใช้ผ้าแห้ง แปรง หรือกระดาษเอนกประสงค์ถูไปมาเบาๆ สองถึงสามครั้งเพื่อให้เชื้อราหลุดออกจากพื้นผิว
• ใช้น้ำยาซักผ้าหนึ่งหรือสองหยดขัดถูบริเวณนั้น จากนั้นจึงนำไปซักในเครื่องซักผ้าโดยใช้อุณหภูมิสูงสุดที่ปลอดภัยกับเนื้อผ้า เติมน้ำยาฟอกขาวตามที่ระบุไว้ในข้อแนะนำการดูแลผลิตภัณฑ์
• ตากผ้าให้แห้ง หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องอบผ้าหากเชื้อรายังไม่ได้ถูกกำจัดออกไป
4 เคล็ดลับในการป้องกันเชื้อราด้วยวิธีจากธรรมชาติ
บางคนอาจต้องการกำจัดเชื้อราโดยใช้วิธีการจากธรรมชาติแทนการใช้สารเคมีรุนแรงซึ่งอาจเป็นอันตราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเสื้อผ้าและรองเท้า วิธีการแบบธรรมชาติในการกำจัดเชื้อราอย่างปลอดภัยมีดังนี้5,6
1. สารละลายน้ำส้มสายชู
ผสมน้ำกับน้ำส้มสายชูในอัตราส่วนเท่ากันลงในขวดสเปรย์ ฉีดพ่นสารละลายลงไปบนเสื้อผ้าและรองเท้าที่มีเชื้อรา และปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาดแล้วตากให้แห้งในบริเวณที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก
2. เบกกิ้งโซดา
ใส่เบกกิ้งโซดาหนึ่งถ้วยลงในเครื่องซักผ้าและนำเสื้อผ้าและรองเท้าที่มีเชื้อราลงไปซัก หรือคุณอาจผสมเบกกิ้งโซดากับน้ำให้เป็นเนื้อข้นๆ แล้วนำไปทาลงบนบริเวณที่มีเชื้อรา ปล่อยทิ้งไว้สองถึงสามชั่วโมงก่อนนำไปซักหรือใช้แปรงขัดส่วนผสมที่แห้งแล้วออกไป*
3. น้ำมันทีทรี
ใส่น้ำมันทีทรีสองถึงสามหยดลงในขวดสเปรย์ใส่น้ำ ฉีดพ่นสารละลายลงไปบนเสื้อผ้าและรองเท้าที่มีเชื้อรา และปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นนำไปซักตามปกติด้วยน้ำยาซักผ้าและตากให้แห้งในบริเวณที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก
4. เลมอน
คั้นน้ำเลมอน 3 ถึง 5 ผลลงในถ้วยแล้วราดลงไปในบริเวณที่มีเชื้อรา ปล่อยทิ้งไว้ 5 นาทีและเช็ดพื้นผิวนั้นด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ หากมีคราบฝังแน่น ให้ราดน้ำเลมอนลงไปอีกครั้งแล้วขัดออก
* โปรดระมัดระวังขณะใช้ผลิตภัณฑ์จากสารเคมี อ่านเอกสารข้อมูลความปลอดภัยและคำแนะนำจากผู้ผลิตทุกครั้งก่อนใช้ผลิตภัณฑ์จากสารเคมี สวม PPE (อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล) ให้เหมาะสม ใช้สารเคมีในบริเวณที่มีอากาศถ่ายเท หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือทำหก และจัดเก็บในสถานที่ที่ปลอดภัย ชำระล้างบริเวณที่โดนสารเคมีออกด้วยน้ำและไปพบแพทย์หากจำเป็น
5 วิธีป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อรา
เมื่อนำเคล็ดลับเหล่านี้ไปใช้ คุณจะสามารถป้องกันไม่ให้เชื้อราแพร่กระจายไปยังของใช้ต่างๆ ในบ้านได้ ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าซ่อมแซมที่มีราคาแพงและปกป้องสุขภาพของคุณได้
1. ลดความชื้น
เชื้อราจะเจริญเติบโตในสภาพแวดล้อมที่เปียกชื้น ดังนั้นจึงจำเป็นต้องลดระดับความชื้นในบ้านของคุณ ใช้เครื่องลดความชื้นในบริเวณที่เกิดความชื้นได้ง่าย เช่น ห้องน้ำและห้องใต้ดิน
2. เพิ่มการระบายอากาศ
การระบายอากาศที่เหมาะสมสามารถลดระดับความชื้นภายในบ้านได้ เปิดประตูและหน้าต่างเพื่อช่วยให้อากาศไหลเวียนได้ดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งขณะอาบน้ำหรือทำอาหาร หรือคุณอาจลงทุนซื้อระบบระบายอากาศที่มีประสิทธิภาพก็ได้
3. ซ่อมแซมรอยรั่ว
การรั่วซึมจากท่อน้ำหรือหลังคาอาจทำให้เกิดสภาพแวดล้อมเปียกชื้นที่เหมาะสำหรับการเจริญเติบโตของเชื้อรา ซ่อมแซมรอยรั่วทันทีเพื่อป้องกันไม่ให้ความชื้นสะสม
4. ทำความสะอาดและเช็ดพื้นผิวต่างๆ ให้แห้ง
ทำความสะอาดพื้นผิวต่างๆ ในบ้านของคุณอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อรา เช็ดทำความสะอาดพื้นผิวที่อาจเปียกชื้น เช่น กระเบื้องห้องน้ำ แล้วทำให้แห้งสนิท
5. ใช้ระบบปรับอากาศ
เครื่องปรับอากาศที่มีประสิทธิภาพและมีระบบฟอกอากาศสามารถลดความชื้นและฟอกอากาศในบ้านของคุณได้ ซึ่งจะช่วยป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อราและปรับปรุงคุณภาพอากาศในบ้านให้ดีขึ้น
คอยตรวจดูอย่างสม่ำเสมอว่ามีการเจริญเติบโตของเชื้อราหรือไม่เพื่อรักษาสภาพแวดล้อมในที่อยู่อาศัยของคุณให้มีความปลอดภัย หากนำมาตรการป้องกันมาใช้อย่างทันท่วงที คุณก็จะสามารถดูแลบ้านให้ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพได้เพื่อคุณและคนในครอบครัว อย่าลืมว่าความพยายามเพียงเล็กน้อยแต่สม่ำเสมอเป็นวิธีที่ได้ผลในระยะยาว
nanoe™ X จะยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราในขณะที่ฟังก์ชันทำความสะอาดภายในช่วยรักษาภายในเครื่องปรับอากาศของคุณให้สะอาดและสดชื่นอยู่เสมอ
เทคโนโลยี nanoe™ X สามารถปล่อยอนุภาคน้ำขนาดนาโนที่มีอนุมูลไฮดรอกซิลออกสู่อากาศในบริมาณมหาศาล อนุภาคที่ทำสามารถปฏิกิริยาได้ดีเหล่านี้จะเข้าจับกับสารมลพิษต่างๆ เช่น เชื้อรา เพื่อทำลายโครงสร้างโปรตีนและยับยั้งการเจริญเติบโต นอกจากนี้ อนุภาค nanoe™ X ยังมีประสิทธิภาพในการกำจัดกลิ่น ซึ่งจะช่วยลดความเข้มข้นของกลิ่นไม่พึงประสงค์และทำให้บ้านของคุณสดชื่นตลอดทั้งวัน
มีการพิสูจน์แล้วว่าผลิตภัณฑ์ที่มีเทคโนโลยี nanoe™ X สามารถยับยั้งกิจกรรมของเชื้อรา Cladosporium ในอากาศได้ 99% ใน 1 ชั่วโมง 7
และ nanoe™ X ยังสามารถยับยั้ง Mucor บนพื้นผิวสัมผัส ซึ่งเป็นเชื้อราชนิดหนึ่งที่มักพบในดิน และสารอินทรีย์ที่กำลังเน่าเปื่อยได้ 99.9% ใน 8 ชั่วโมง 7
นอกจากนั้น เครื่องปรับอากาศบางรุ่นยังมาพร้อมกับคุณสมบัติทำความสะอาดภายในแบบใหม่ที่อาศัยประโยชน์จากเทคโนโลยี nanoe™ X ในการทำความสะอาดด้านในของเครื่องปรับอากาศในอาคารเพื่อยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์
หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ nanoe™ X ของพานาโซนิค คลิก ที่นี่
ลิงค์บทความ
1 https://www.thespruce.com/different-types-of-mold-4772562
2 https://home.howstuffworks.com/home-improvement/household-hints-tips/cleaning-organizing/shower-door-cleaning-soap-scum-and-hard-water-stains2.htm
3 https://www.persil.com/uk/laundry/laundry-tips/fabrics/how-to-remove-mould-from-fabric
4 https://mouldcleaningaustralia.com.au/blog/how-to-get-mould-out-of-clothes
5 https://www.maids.com/cleaning-hacks/3-non-toxic-ways-clean-mold-natural-cleaners/
6 https://www.ehow.com/how_4799896_clean-mold-tea-tree-oil.html
7 https://www.panasonic.com/global/hvac/nanoe/all/verification/evidence/
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง