แบคทีเรีย ไวรัส และการต่อสู้กับผู้บุกรุกที่มองไม่เห็น

• แบคทีเรียและไวรัสแพร่กระจายได้อย่างไร
• 7 แหล่งเชื้อโรคในบ้านที่คุณไม่ทราบมาก่อน
• การระบุต้นตอของปัญหา แบคทีเรียและไวรัสที่พบบ่อยรอบตัวคุณและผลกระทบต่อสุขภาพและทรัพย์สินของคุณ
• 6 วิธีที่มีประสิทธิภาพในการรักษาสุขอนามัยเพื่อป้องกันการสะสมของแบคทีเรียและไวรัสในบ้านของคุณ
• มั่นใจ สะอาด และสดชื่นอยู่เสมอด้วย nanoe™ X

คุณรู้หรือไม่ว่าโดยเฉลี่ยแล้ว สมาร์ทโฟนมียีนของแบคทีเรียกว่า 17,000 ชุดซึ่งมีจำนวนแบคทีเรียมากกว่าฝารองนั่งบนชักโครกส่วนใหญ่ถึง 10 เท่า และนั่นเป็นเพราะเราไม่ได้ทำความสะอาดสมาร์ทโฟนของเราให้บ่อยเท่าที่ควร

เมื่อใดก็ตามที่คุณสัมผัสอุปกรณ์โดยไม่ได้ล้างมือ แบคทีเรียจากมือของคุณก็จะแพร่กระจายมาอยู่บนโทรศัพท์ หน้าจอโทรศัพท์มักจะอุ่น แบคทีเรียจึงเติบโตได้และแพร่กระจายต่อไปยังนิ้วมือ ใบหน้า ดวงตา หู รวมถึงริมฝีปากของคุณ มือของเรามักจะเต็มไปด้วยเชื้อโรคเนื่องจากปัจจัยหลายอย่าง ปัจจัยสำคัญข้อหนึ่งคือการต้องใช้พื้นที่ร่วมกับคนจำนวนมากอยู่บ่อยครั้ง เมื่อคนหลายคนสัมผัสสิ่งของหรือพื้นผิวเดียวกัน เช่น ลูกบิดประตู ปุ่มลิฟต์ หรือราวบันได เชื้อโรคจะแพร่กระจายจากบุคคลหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่งได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ การดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคลที่ไม่ดีก็มีบทบาทสำคัญในการทำให้มีเชื้อโรคสะสมที่มือเป็นจำนวนมากเช่นกัน

รอบตัวคุณมีเชื้อโรคอยู่ทุกที่ แม้แบคทีเรียที่ดีบางชนิดจะมีความจำเป็น และช่วยร่างกายของเราในการต่อสู้กับแบคทีเรียชนิดที่ไม่ดี แต่ยังมีแบคทีเรียในอากาศ และแบคทีเรียบนพื้นผิวสัมผัสสายพันธุ์อื่นๆ อีกที่สามารถแพร่กระจายโรคและความเจ็บป่วยต่างๆ ได้

หากเป็นเช่นนั้น คุณจะสามารถทำอะไรได้บ้างเพื่อป้องกันแบคทีเรีย สำหรับหัวข้อในวันนี้ เราจะเน้นที่การเจริญเติบโตของแบคทีเรียและวิธีการที่คุณสามารถจัดการกับแบคทีเรียได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทางการสัมผัส

แบคทีเรียสามารถแพร่กระจายได้โดยการสัมผัสพื้นผิว หรืออุปกรณ์ที่ไม่สะอาด เช่น โทรศัพท์มือถือ แบคทีเรียสามารถแพร่กระจายจากพื้นผิวที่ปนเปื้อนมาสู่มือของเรา และต่อไปยังอุปกรณ์ของเรา ซึ่งจะกลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ที่เหมาะกับการเจริญเติบโต และแพร่กระจายของแบคทีเรีย

ทางการบาดเจ็บ

แบคทีเรียสามารถเข้าสู่ร่างกายโดยผ่านทางแผลเปิดหรือรอยบาด ซึ่งจะเพิ่มโอกาสในการติดเชื้อที่บริเวณเนื้อเยื่อโดยรอบและอาจแพร่กระจายไปสู่อวัยวะอื่นๆ ในร่างกายได้

ทางการหายใจ

เมื่อละอองในอากาศขนาดเล็กที่มีแบคทีเรียผ่านเข้ามาในระบบทางเดินหายใจโดยการสูดหายใจ แบคทีเรียเหล่านี้อาจทำให้เกิดการติดเชื้อในปอดหรืออวัยวะอื่นๆ ในทางเดินหายใจ

1. กระเป๋าถือ

จากการศึกษาวิจัยกระเป๋าถือ และกระเป๋าสตางค์ 145 ใบ พบว่า 95% มีการปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรีย เช่นเดียวกับสมาร์ทโฟน แม้จะเป็นสิ่งที่คุณถือไปทุกที่ แต่กระเป๋าถือกลับไม่ได้รับการทำความสะอาดบ่อยครั้งนัก ในกระเป๋าถือของคุณจะมีกระเป๋าสตางค์ กุญแจ สมาร์ทโฟน ลิปสติก และของใช้จิปาถะอื่นๆ ที่ปนเปื้อนเนื่องจากมือที่ไม่สะอาดของคุณ ยิ่งไปกว่านั้น เรายังวางกระเป๋าของเราไว้บนโต๊ะ เก้าอี้ และบนพื้น ซึ่งมีโอกาสทำให้แบคทีเรียติดมาด้วย

2. รีโมตทีวี

สิ่งของอีกอย่างหนึ่งที่มักถูกมองข้ามในขณะที่คุณทำความสะอาดบ้านคือรีโมตทีวี⁴ ทุกคนในบ้านใช้อุปกรณ์นี้หลายครั้งในหนึ่งวัน รีโมตเป็นอุปกรณ์ที่เราทำตกลงไปที่พื้น คาอยู่ในร่องโซฟา ไอใส่ ทำของเหลวหกใส่ และเต็มไปด้วยคราบไขมันจากอาหาร รีโมตที่สกปรกจะดึงดูดแบคทีเรียและไวรัสที่แพร่เชื้อได้

3. ลูกบิดประตู

สิ่งของในบ้านอีกอย่างหนึ่งที่มักถูกละเลยขณะทำความสะอาดคือลูกบิดและที่จับประตู ทั้งสองอย่างนี้จึงเป็นหนึ่งใน 5 สิ่งของที่สกปรกที่สุดในบ้าน⁵ ลูกบิดและที่จับประตูเป็นจุดที่มีการสัมผัสร่วมมากที่สุดเมื่อทุกคนกลับมาถึงบ้านหรือเข้าไปยังห้องต่างๆ ภายในบ้าน ที่จับประตูส่วนมากจะทำจากสแตนเลส
ซึ่งเป็นวัสดุที่แบคทีเรียและไวรัสสามารถเจริญเติบโตได้ หากมีอุณหภูมิและระดับความชื้นที่เหมาะสม แบคทีเรียจะมีชีวิตอยู่บนพื้นผิวได้ตั้งแต่หลายชั่วโมงไปจนถึงหลายสัปดาห์ โรคหนึ่งที่พบได้บ่อยที่สุดและมีสาเหตุมาจากที่จับประตูคือโรคหวัด เนื่องจากส่วนใหญ่แล้วไวรัสนี้จะแพร่กระจายโดยการสัมผัสกับสิ่งของหรือพื้นผิวที่มีการปนเปื้อนโดยตรง

4. คีย์บอร์ด

เครื่องใช้ในบ้านอีกอย่างหนึ่งที่เราใช้งานทุกวันแต่ไม่เคยทำความสะอาดเลยคือคีย์บอร์ดที่ใช้กับคอมพิวเตอร์ คีย์บอร์ดของเราเต็มไปด้วยแบคทีเรีย ทุกครั้งที่รับประทานอาหารหรือดื่มเครื่องดื่มในขณะพิมพ์งานด้วยคีย์บอร์ด คุณจะทิ้งคราบน้ำมันและความชื้นจากเศษอาหารและเครื่องดื่มบนนิ้วมือของคุณไว้ แบคทีเรียชอบคีย์บอร์ดที่สกปรก

5. สวิตช์ไฟ

เช่นเดียวกับโทรศัพท์มือถือ สวิตช์ไฟมีอุณหภูมิที่อุ่นซึ่งทำให้แบคทีเรียเติบโตได้ จากการประเมินครั้งหนึ่งพบว่า บนสวิตช์ที่มีการสัมผัสบ่อยครั้งจะมีแบคทีเรียประมาณ 217 ตัวต่อพื้นที่หนึ่งตารางนิ้ว

6. พรม

บนพรมทั่วไปจะมีแบคทีเรียประมาณ 200,000 ตัวต่อพื้นที่หนึ่งตารางนิ้ว⁶
แม้จะดูสะอาด แต่พรมสามารถเก็บกักสิ่งสกปรกเอาไว้ได้มากถึง 4 เท่าของน้ำหนักและดูดซับสารอินทรีย์ต่างๆ เช่น อาหาร เครื่องดื่ม ความชื้น เชื้อรา ฝุ่นละออง เส้นผม สะเก็ดผิวหนัง และสารอื่นๆ ที่คล้ายกันไว้ตลอดทั้งวัน

7. หัวก๊อกน้ำ

หัวก๊อกน้ำก็เป็นสิ่งของอีกอย่างหนึ่งที่สกปรกมากและปนเปื้อนไปด้วยแบคทีเรีย
แบคทีเรียบนหัวก๊อกน้ำสามารถแพร่กระจายไปยังคนถัดไปที่ใช้ก๊อกน้ำได้

* โปรดทราบด้วยว่าคุณควรนำเคล็ดลับที่แนะนำไปใช้อย่างระมัดระวังโดยอยู่ในความรับผิดชอบของตนเอง แม้เคล็ดลับเหล่านี้จะใช้ได้ผลดีสำหรับคนส่วนใหญ่ แต่สถานการณ์และสภาพแวดล้อมของแต่ละคนอาจแตกต่างกันไป คุณควรศึกษาหาข้อมูลด้วยตนเองและพิจารณาถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นรวมถึงผลกระทบต่างๆ ก่อนนำคำแนะนำเหล่านี้ไปใช้

จากการศึกษาวิจัยของศูนย์วิศวกรรมด้านชีววิทยาสิ่งแวดล้อมในประเทศสิงคโปร์ (SCELSE) พบว่า ในแต่ละวัน เราหายใจเอาแบคทีเรียเข้าไปนับพันสปีชีส์ ในชั้นบรรยากาศของเราจะมีแบคทีเรียในสปีชีส์เหล่านี้อย่างน้อย 70% เสมอ⁷

การเจริญเติบโตของแบคทีเรียและไวรัสมักขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ อุณหภูมิ ค่า pH ระดับออกซิเจน ความชื้น และความชุ่มชื้น มาดูกันว่าแบคทีเรียและไวรัสชนิดไม่ดีที่พบได้บ่อยที่สุดรอบตัวคุณมีอะไรบ้าง

• Staphylococcus aureus
  แบคทีเรียชนิดหนึ่งที่อาศัยอยู่บนผิวหนังและในจมูก แบคทีเรียเหล่านี้แพร่พันธุ์ได้บนพื้นผิวของวัตถุต่างๆ และในบริเวณที่มีผู้คนมารวมตัวกัน⁸
  
  - การติดเชื้อ Staph
  เชื้อ S. aureus หรือ Staph อาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้หลายชนิด ตั้งแต่การติดเชื้อเพียงเล็กน้อยที่ผิวหนังอย่างฝีหรือตุ่มพุพองไปจนถึงการติดเชื้อรุนแรง เช่น ปอดอักเสบและติดเชื้อในกระแสเลือด นอกจากนี้ เชื้อ S. aureus ยังเริ่มดื้อต่อยาฆ่าเชื้อมากขึ้นด้วย

• Escherichia coli
  แบคทีเรียชนิดหนึ่งที่อาศัยอยู่ในลำไส้ของมนุษย์และสัตว์ที่มีสุขภาพแข็งแรง แบคทีเรียชนิดนี้เป็นที่รู้จักในชื่อ E. coli และมีชีวิตรอดได้บนพื้นผิวต่างๆ ในครัวเรือน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริเวณที่ใช้ในการจัดเตรียมหรือรับประทานอาหาร⁹
  
  - โรคที่เกิดจากอาหาร
  เชื้อ E. coli บางกลุ่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเชื้อ E. coli ที่สามารถผลิตสารพิษชื่อว่า Shiga (STEC) อาจทำให้เกิดโรคจากอาหารได้เมื่อถูกย่อย ซึ่งจะทำให้เกิดอาการต่างๆ เช่น ท้องเสีย อาเจียน และปวดท้อง

• เชื้อราและจุดรา
  เชื้อราและจุดราคือเห็ดราชนิดหนึ่งที่สามารถพบได้บ่อยในบ้าน หากจุดที่เปียกชื้นภายในบ้านของคุณไม่ได้รับการดูแลภายใน 48 ชั่วโมง จุลินทรีย์จะเริ่มเจริญเติบโตและแพร่กระจายออกไป¹⁰
  
  - การปนเปื้อนเชื้อราและจุดรา
  การสัมผัสกับสปอร์ของเชื้อราและจุดราอาจทำให้เกิดโรคภูมิแพ้ผิวหนังและปัญหาในระบบทางเดินหายใจได้ ในบางรายอาจมีอาการรุนแรง เช่น หอบหืดหรือติดเชื้อในปอดหากสัมผัสกับการปนเปื้อนเชื้อราปริมาณมากเป็นระยะเวลานาน นอกจากนี้ การปนเปื้อนของเชื้อราและจุดรายังอาจทำให้เกิดความเสียหายภายในบ้านและเครื่องใช้ในบ้านของคุณด้วย

• Influenza (ไข้หวัดใหญ่)
  ไวรัส Influenza มีหลายสายพันธุ์และเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคไข้หวัดใหญ่ซึ่งเป็นโรคในระบบทางเดินหายใจที่สามารถติดต่อจากคนสู่คนได้ โรคนี้จะส่งผลกระทบต่อจมูก คอ และปอดในบางครั้ง และอาจทำให้มีอาการตั้งแต่ระดับเล็กน้อยไปจนถึงรุนแรง¹¹
  
  - อาการของโรคไข้หวัดใหญ่
  อาการของโรคไข้หวัดใหญ่ได้แก่ มีไข้หรือหนาวสั่น ไอ เจ็บคอ น้ำมูกไหล ปวดเมื่อยตามตัวหรือกล้ามเนื้อ ปวดศีรษะ และอ่อนเพลีย ในบางรายอาจมีอาการอาเจียนและท้องเสียร่วมด้วย

แม้จะไม่สามารถป้องกันไม่ให้แบคทีเรียและไวรัสเข้ามาในบ้านของเราได้ แต่ก็มีวิธีการมากมายในการยับยั้งและจำกัดการรุกล้ำของแบคทีเรียและไวรัสเหล่านี้ เคล็ดลับมีดังต่อไปนี้

1. ลงทุนซื้อระบบฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพ

ผลิตภัณฑ์ที่ดีและมีระบบฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพจะสามารถกรองแบคทีเรีย ฝุ่นละออง และสารมลพิษต่างๆ ในอากาศออกไปได้และช่วยปรับปรุงคุณภาพอากาศโดยรวมภายในบ้านของคุณให้ดีขึ้น

2. เช็ดทำความสะอาด

แบคทีเรียสามารถเจริญเติบโตและเพิ่มจำนวนได้อย่างง่ายดายบนพื้นผิวของวัตถุต่างๆ ใช้น้ำยาฆ่าเชื้อหรือผ้าเปียกแบบไม่มีแอลกอฮอล์เช็ดทำความสะอาดพื้นผิวต่างๆ เป็นประจำทุกวัน รวมถึงซักพรมและวัสดุหุ้มเบาะอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันกลิ่นไม่พึงประสงค์

3. ล้างมือให้สะอาด

วิธีหนึ่งที่ง่ายที่สุดในการป้องกันการแพร่กระจายของแบคทีเรียคือการล้างมือให้สะอาด ล้างมือเป็นประจำก่อนรับประทานหรือทำอาหาร หลังใช้ห้องน้ำและหลังสัมผัสพื้นผิวที่อาจมีการปนเปื้อน

4. ทำให้บ้านของคุณแห้งอยู่เสมอ

แบคทีเรียจะเติบโตได้ดีในสภาพแวดล้อมที่เปียกชื้น ดังนั้นคุณจึงควรทำให้บ้านแห้งอยู่เสมอ ซ่อมแซมรอยรั่วหรือท่อน้ำที่เสียหายอย่างรวดเร็วและใช้เครื่องลดความชื้นในการลดระดับความชื้นภายในบ้านของคุณ

5. ฆ่าเชื้อฟองน้ำทั้งหมด

ฟองน้ำที่คุณใช้ในการล้างจานรวมถึงอ่างล้างจานเป็นแหล่งที่อยู่ของแบคทีเรียจำนวนมาก หากทำความสะอาดโดยใช้ฟองน้ำเก่าที่ไม่ผ่านการฆ่าเชื้อ คุณจะทำให้แบคทีเรียแพร่กระจายไปทั่วบ้าน ดังนั้นจึงควรใช้น้ำยาฆ่าเชื้อที่มีประสิทธิภาพเพื่อให้ฟองน้ำของคุณสะอาดปราศจากแบคทีเรียอยู่เสมอ หากฟองน้ำเริ่มเก่าหรือเสื่อมสภาพ ให้เปลี่ยนใหม่ทันที

6. ทำให้มีการระบายอากาศที่ดีอยู่เสมอ

การระบายอากาศที่ดีภายในอาคารมีบทบาทสำคัญในการลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโดยการกำจัดและทำให้เชื้อโรคในอากาศเบาบางลง ซึ่งจะช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีต่อสุขภาพและปลอดภัยมากยิ่งขึ้นสำหรับผู้อยู่อาศัย

คุณควรทราบด้วยว่ามีแบคทีเรียที่ดีและไม่ดีหลายชนิดอยู่ในบ้าน ที่ทำงาน และรอบตัวคุณ การปฏิบัติตามหลักสุขอนามัย ใช้ผลิตภัณฑ์ฟอกอากาศ เพิ่มการระบายอากาศ และปรับระดับความชื้นให้เหมาะสมสามารถลดการแพร่กระจายของแบคทีเรียและไวรัสโดยรวมได้

เทคโนโลยี nanoe™ X สามารถปล่อยอนุมูลไฮดรอกซิลปริมาณมหาศาลได้ในหนึ่งวินาที ซึ่งอนุมูลเหล่านี้จะกระจายตัวอย่างรวดเร็วเพื่อทำลายโครงสร้างโปรตีนของไวรัสที่อยู่ในอากาศและบนพื้นผิว เทคโนโลยีนี้มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการใช้งานในที่อยู่อาศัย เนื่องจากอนุภาค nanoe™ X สามารถช่วยในการยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและไวรัสบนพื้นผิวของเครื่องใช้ในครัวเรือนที่เราใช้บ่อยๆ เช่น คีย์บอร์ดและพื้นผิวโต๊ะ หรือของใช้ส่วนตัว เช่น โทรศัพท์มือถือและกระเป๋าถือ

และยังสามารถกำจัดสารมลพิษที่ล่องลอยอยู่ในอากาศได้ด้วย ด้วยขนาดราว 5-20 นาโนเมตร อนุภาค nanoe™ X จึงสามารถแทรกซึมลึกลงไปในเส้นใยเพื่อยับยั้งแบคทีเรียได้ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า ผ้าม่าน โซฟา และพรม เนื่องจาก nanoe™ X มีประสิทธิภาพในการกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ จึงช่วยให้บ้านของคุณสะอาดสดชื่นอยู่เสมอด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้ จากการทดสอบยังพบว่าเทคโนโลยี nanoe™ X มีประสิทธิภาพในการยับยั้งไวรัสบนพื้นผิวสัมผัส เช่น ไวรัสไข้หวัดใหญ่ Influenza (สายพันธุ์ H1N1) ได้ถึง 99.9% ใน 2 ชั่วโมง และยับยั้งเชื้อ Staphylococcus aureus ได้ 99% ใน 8 ชั่วโมง

ผลิตภัณฑ์ nanoe™ X บางรุ่นสามารถยับยั้งแบคทีเรียในอากาศ (Staphylococcus aureus) ได้ 99% ใน 3 ชั่วโมง¹²

หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ nanoe™ X ของพานาโซนิค คลิก ที่นี่

ลิงค์บทความ

¹ https://www.cdc.gov/infectioncontrol/spread/index.html
² https://www.health.state.mn.us/people/handhygiene/why/5ways.html
³ https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC4513311/
⁴ https://www.reuters.com/article/uk-usa-health-hotel-idUSLNE85I00L20120619
⁵ https://www.psu.edu/news/campus-life/story/think-twice-grabbing-door-knob/
⁶ https://www.menshealth.com/health/a19537904/eliminate-germs-your-house/
⁷ https://scelse.sg/the-air-that-we-breathe-bacteria-and-fungi-show-a-precise-daily-rhythm-in-tropical-air-finds-ntu-singapore-study/
⁸ https://www.foodstandards.gov.au/publications/Documents/Staphylococcus%20aureus.pdf
⁹ https://www.nature.com/articles/nbt1103-1266b#:~:text=E.,at%20about%2037%20%C2%B0C.
¹⁰ https://www.moldbacteria.com/mold/indoor-mold-and-bacteria-and-their-health-effects.html
¹¹ https://www.cdc.gov/flu/about/keyfacts.htm
¹² https://www.panasonic.com/global/hvac/nanoe/all/verification/evidence/

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

> เปิดเผยความเชื่อและความจริงเกี่ยวกับคุณภาพอากาศในอาคาร
> หากมีกลิ่นอับชื้นภายในบ้าน ป้องกันไม่ให้เชื้อราแพร่กระจายและทำลายบ้านหรือสุขภาพของคุณ