การกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์:
8 วิธีที่ได้ผลในการป้องกันหรือกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ในบ้าน
ทุเรียน ราชาแห่งผลไม้ ไม่ว่าคุณจะชอบหรือเกลียด ทุเรียนก็ถือเป็นความท้าทายที่นักท่องเที่ยวหลายล้านคนที่มาเยือนเอเชียต้องลิ้มลอง กลิ่นที่ยากจะลืมเลือนของทุเรียนนั้นรุนแรงและมีลักษณะเฉพาะจนกลายเป็นสิ่งของต้องห้ามในอาคารและระบบขนส่งสาธารณะทั่วโลก มีหลายครั้งในออสเตรเลียที่นักดับเพลิงรีบเข้าไปในอาคารหรือย่านที่อยู่อาศัยเนื่องจากได้รับรายงานว่ามีแก๊สรั่ว แล้วพบว่าต้นตอของกลิ่นมาจากราชาแห่งผลไม้ชนิดนี้เท่านั้น ผลไม้อีกชนิดหนึ่งที่ชาวเอเชียจำนวนมากชื่นชอบคือขนุน ซึ่งเป็นผลไม้ที่มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์เช่นกัน
โดยทั่วไปแล้ว ชาวเอเชียส่วนใหญ่จะชอบอาหารที่มีรสชาติจัดจ้าน คุณเคยเดินตามหาว่ากลิ่นอาหารทำกินเองในบ้านที่หอมน่ากินนั้นลอยมาจากที่ใดแล้วพบว่าตนเองอยู่ท่ามกลางควันขโมงหรือไม่ สำหรับวัฒนธรรมเอเชียจำนวนมาก การทำอาหารที่บ้านถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติอันเป็นที่นิยม ด้วยเมนูต่างๆ ที่มีรสชาติเข้มข้นจัดจ้านและทำให้คุณน้ำลายสอ แต่หากไม่มีการระบายอากาศที่ดี คุณจะสามารถกำจัดกลิ่นออกไปจากบ้านของคุณได้อย่างไร
การกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์อาจไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อกลิ่นได้ซึมลงไปในเส้นใยผ้าแล้ว แต่คุณไม่ต้องกังวลไปเนื่องจากมีวิธีการที่ได้ผลมากมายในการทำให้อากาศในบ้านของคุณสดชื่น ดังนั้น คุณจึงสามารถทำอาหารเมนูโปรดต่อได้อย่างสบายใจและกินทุเรียนให้หายอยากได้โดยไม่ต้องกังวล ในบทความนี้ เราจะมาดูกันว่าสาเหตุโดยทั่วไปของกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้แก่อะไรบ้างและวิธีการที่ดีที่สุดในการกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์เหล่านี้คืออะไร
กลิ่นนั้นคืออะไร สาเหตุทั่วไปของกลิ่นไม่พึงประสงค์ในบ้านของคุณ
กลิ่นไม่พึงประสงค์ภายในบ้านมักเกิดจากการไม่ใส่ใจความสะอาดและการดูแลรักษา การปฏิบัติที่คุณควรหลีกเลี่ยงมีดังต่อไปนี้
1. ผลไม้
ผลไม้สองชนิดที่โด่งดังที่สุดในเอเชียอย่างทุเรียนและขนุนนั้นเป็นที่ทราบกันดีว่ามีกลิ่นแรง และหลายคนอาจไม่ชอบกลิ่นนี้ หากคุณมีผลไม้เหล่านี้ในบ้าน กลิ่นของผลไม้จะแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็วและหลงเหลืออยู่เป็นเวลานาน
เคล็ดลับ*:
เปลือกสามารถกำจัดกลิ่นได้! คุณทราบหรือไม่ว่าสามารถล้างมือด้วยเปลือกด้านในของทุเรียนได้ เปลือกทุเรียนสามารถกำจัดกลิ่นได้โดยการทำให้กลิ่นทุเรียนเจือจางลง จากการศึกษาวิจัยพบว่า สารประกอบที่มีฤทธิ์ในการกำจัดกลิ่นเรียกว่า 5-HMF จะเกิดจากเมล็ดเมื่อผ่านปฏิกิริยาเคมี 2 ขั้นตอน ได้แก่ การสลายพันธะด้วยน้ำและการขาดน้ำ สำหรับการจัดเก็บ ให้ใช้ภาชนะสุญญากาศในการจัดเก็บผลไม้ที่มีกลิ่นแรง เปิดหน้าต่างเพื่อให้มีการระบายอากาศในบ้านทุกครั้งที่รับประทานทุเรียนหรือขนุน1
2. ผ้าสกปรกที่เปียกชื้น
เสื้อผ้าที่กองสุมกันอยู่โดยไม่ได้ซักอาจทำให้เกิดกลิ่นเหม็นที่รุนแรงได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งชุดออกกำลังกายหรือผ้าขนหนูที่เปียกชื้น
เคล็ดลับ*:
อย่ากองรวมกันไว้ แต่ให้นำไปซัก! การซักเสื้อผ้าให้ตรงเวลาอย่างสม่ำเสมอไม่เพียงแต่จะช่วยกำจัดกลิ่นเหม็นได้เท่านั้น แต่ยังสามารถป้องกันไม่ให้แบคทีเรียมาอาศัยอยู่ในตระกร้าผ้าหรือบริเวณโดยรอบได้ด้วย
3. กลิ่นสัตว์เลี้ยง
หากคุณเลี้ยงแมวหรือสุนัขแต่ไม่ได้ดูแลความสะอาดอย่างเหมาะสม และไม่ได้ทำความสะอาดที่นอนหรือกระบะขับถ่ายอย่างสม่ำเสมอ กลิ่นไม่พึงประสงค์จากสัตว์เลี้ยงจะกระจายไปทั่วบ้านอย่างง่ายดาย
เคล็ดลับ*: คุณต้องอาบน้ำและตัดแต่งขนให้สัตว์เลี้ยง! สมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งอเมริกาแนะนำให้อาบน้ำสุนัขของคุณทุกๆ 3 เดือน2 แต่ควรคำนึงถึงปัจจัยอื่นๆ เช่น เวลาที่ใช้นอกบ้าน ประเภทขนและสภาพผิวหนังด้วย สำหรับแมว สถาบันฝึกอบรมผู้ดูแลแมวแห่งชาติของอเมริกาแนะนำว่าควรอาบน้ำทุกๆ 4-6 สัปดาห์
4. อาหารที่เน่าเสีย
อาหารที่เน่าเสียจะทำให้เกิดกลิ่นเหม็นในบ้านของคุณอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ อาหาร เครื่องดื่ม หรือซอสปรุงรสที่หมดอายุบนชั้นในครัวหรือตู้เย็นก็อาจส่งกลิ่นเหม็นรุนแรงได้เช่นกัน
เคล็ดลับ*:
เลิกเกียจคร้านและเริ่มตรวจสอบ: อย่ารีรอหากเป็นเรื่องของอาหาร ดูว่ามีผลิตภัณฑ์ที่หมดอายุในตู้เย็นหรือตู้กับข้าวหรือไม่แล้วนำไปทิ้งลงในถังขยะนอกบ้านทันทีเพื่อป้องกันแบคทีเรียและกลิ่นไม่พึงประสงค์ในอากาศภายในบ้านของคุณ
5. ขยะ
ขยะจะส่งกลิ่นเหม็นเนื่องจากมีวัสดุที่กำลังเน่าเปื่อย เช่น เนื้อสัตว์และผักต่างๆ ขณะที่เนื้อกำลังเน่าเสีย จะดึงดูดแบคทีเรียที่กินกรดอะมิโนในโปรตีนของเนื้อเป็นอาหาร
และผักก็สามารถเน่าเสียและกลายเป็นน้ำได้เช่นกันเนื่องจากจุลินทรีย์จะเข้าไปทำลายโครงสร้างเซลล์ในผัก
เคล็ดลับ*:
นอกจากการนำถุงขยะไปเททิ้งอย่างสม่ำเสมอแล้ว คุณอาจลองใส่ทรายแมว เบกกิ้งโซดา เปลือกส้ม หรือถ่านสักสองสามก้อนไว้ที่ก้นถังเพื่อให้ดูดซับกลิ่นไม่พึงประสงค์
6. เหงื่อ
เมื่อแบคทีเรียบนผิวหนังของคุณรวมตัวกับเหงื่อ จะทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ ปัจจัยต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อกลิ่นตัวได้แก่ การออกกำลังกาย โรคประจำตัว การรับประทานอาหาร ความเครียดหรือวิตกกังวล อากาศร้อน ภาวะน้ำหนักเกิน และพันธุกรรม
เคล็ดลับ*:
ดูแลผิวหนังของคุณให้สะอาดอยู่เสมอโดยการอาบน้ำด้วยสบู่ป้องกันแบคทีเรีย รวมถึงการซักผ้าและสวมใส่เสื้อผ้าที่สะอาดเป็นประจำ นอกจากนี้ คุณควรระวังอาหารบางอย่างที่อาจทำให้เกิดกลิ่นตัวด้วย เช่น กระเทียม หัวหอม และแอลกอฮอล์
7. บุหรี่
การสูบบุหรี่เป็นอันตรายต่อทั้งตัวผู้สูบและบุคคลรอบข้าง กลิ่นบุหรี่ที่ล่องลอยอยู่ในอากาศเกิดจากสารนิโคตินตกค้างและสารเคมีอื่นๆ ที่หลงเหลืออยู่บนพื้นผิวเนื่องจากควันบุหรี่ และกลิ่นนี้มักจะติดอยู่บนสิ่งของต่างๆ เช่น เสื้อผ้า เฟอร์นิเจอร์ พรม ผนัง และบนผิวหนังของคุณ
เคล็ดลับ*:
ลองโรยเบกกิ้งโซดาลงบนพื้นผิวที่ใช้ผ้าคลุมในบริเวณที่มีกลิ่นควันบุหรี่ จากนั้นทิ้งไว้หนึ่งวันก่อนใช้เครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาดบริเวณดังกล่าว นอกจากนี้ คุณยังสามารถใช้เบกกิ้งโซดาร่วมกับน้ำยาซักผ้าในการกำจัดกลิ่นบุหรี่ออกจากเสื้อผ้าของคุณได้
8. บาร์บีคิว
ในเอเชีย เราชื่นชอบการออกไปรับประทานอาหารนอกบ้าน และส่วนใหญ่แล้วหลังมื้ออาหารอันแสนสุขที่ร้านโปรดในท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นสะเต๊ะ หม้อไฟ หรือเทปันยากิ กลิ่นอาหารจะติดอยู่บนเสื้อผ้าของเราแม้จะออกจากร้านมาแล้วก็ตาม
เคล็ดลับ*:
ไอน้ำสามารถกำจัดกลิ่นบนเสื้อผ้าได้อย่างดีเยี่ยม ขณะอาบน้ำร้อน ให้แขวนเสื้อผ้าไว้ใกล้ๆ ไอน้ำจะทำให้เส้นใยผ้าคลายตัวและระบายกลิ่นไม่พึงประสงค์ออกมา หากคุณกำลังรีบ ให้ใช้เตารีดไอน้ำแทน อีกวิธีหนึ่งที่สามารถกำจัดกลิ่นได้อย่างรวดเร็วคือใส่น้ำเลมอน 5 หยดลงไปในน้ำ 200 มล. ฉีดพ่นลงไปบนเสื้อผ้าของคุณจากนั้นแขวนไว้ในจุดที่มีอากาศถ่ายเทเพื่อให้กลิ่นระเหยไป
กลิ่น 3 ประเภทที่คุณควรระวัง
กลิ่นบางอย่างอาจทำให้เราทราบถึงสถานการณ์ที่เป็นอันตรายต่อชีวิต โปรดใช้ความระมัดระวังและตรวจสอบบ้านของคุณเมื่อได้กลิ่นต่อไปนี้
1. แก๊ส
หากคุณได้กลิ่นแก๊สในบ้าน เป็นไปได้ว่าอาจเกิดแก๊สรั่ว ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่อาจเป็นอันตราย
เคล็ดลับ*:
ปิดแหล่งจ่ายแก๊ส เปิดหน้าต่างทุกบานและออกจากบ้านทันที ติดต่อบริษัทแก๊สหรือหน่วยบริการเหตุฉุกเฉินเพื่อรายงานว่าเกิดแก๊สรั่ว
2. กลิ่นอับ/กลิ่นเชื้อรา
กลิ่นอับหรือกลิ่นเหม็นจากเชื้อราอาจทำให้จามอย่างรุนแรง เกิดอาการภูมิแพ้ หรือปัญหาในระบบทางเดินหายใจ
เคล็ดลับ*: หากคุณได้กลิ่นเหม็นอับ ให้ตรวจสอบดูว่ากลิ่นมาจากที่ใด และจัดการกับปัญหาความชื้นหรือบริเวณที่เปียกชื้นในบ้านเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อรา
3. กลิ่นไหม้หรือควันไฟ
หากคุณได้กลิ่นไหม้ในบ้าน เป็นไปได้ว่าอาจเกิดเพลิงไหม้ หากเห็นควันไฟหรือเปลวไฟ ให้ออกจากบ้านทันทีและโทรแจ้งหน่วยบริการเหตุฉุกเฉิน
เคล็ดลับ*: กลิ่นเหม็นไหม้อาจทำให้คุณทราบว่าเกิดปัญหาด้านระบบไฟฟ้าหรือมีเครื่องใช้ไฟฟ้าทำงานผิดปกติซึ่งอาจทำให้เกิดเพลิงไหม้ได้ จัดการกับที่มาของกลิ่นทันทีเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น
* โปรดทราบด้วยว่าคุณควรนำเคล็ดลับที่แนะนำไปใช้อย่างระมัดระวังโดยอยู่ในความรับผิดชอบของตนเอง แม้เคล็ดลับเหล่านี้จะใช้ได้ผลดีสำหรับคนส่วนใหญ่ แต่สถานการณ์และสภาพแวดล้อมของแต่ละคนอาจแตกต่างกันไป คุณควรศึกษาหาข้อมูลด้วยตนเองและพิจารณาถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นรวมถึงผลกระทบต่างๆ ก่อนนำคำแนะนำเหล่านี้ไปใช้
8 วิธีที่ได้ผลในการป้องกันหรือกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ในบ้าน
1. แปรงและดูดฝุ่น
การทำความสะอาด ดูดฝุ่น และแปรงวัสดุหุ้มเบาะอย่างสม่ำเสมอจะช่วยยับยั้งโมเลกุลของกลิ่นที่ติดอยู่ในพรม โซฟา และผ้าม่านของคุณ
2. เบกกิ้งโซดา
เบกกิ้งโซดาเป็นสารกำจัดกลิ่นจากธรรมชาติที่สามารถดูดซับกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ โรยเบกกิ้งโซดาปริมาณเล็กน้อยลงไปบนพรม เฟอร์นิเจอร์ หรือในตู้เย็นเพื่อช่วยในการกำจัดกลิ่น
3. น้ำส้มสายชู
น้ำส้มสายชูเป็นสารกำจัดกลิ่นจากธรรมชาติอีกชนิดหนึ่งที่สามารถกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ ผสมน้ำและน้ำส้มสายชูในอัตราส่วนที่เท่ากันลงในขวดสเปรย์และใช้ในการทำความสะอาดพื้นผิวภายในบ้าน
4. กากกาแฟ
ในกาแฟมีไนโตรเจนซึ่งสามารถกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ในอากาศได้อย่างรวดเร็ว คุณสามารถใส่กากกาแฟลงในเหยือกหรือถุงแล้วนำไปแช่ในตู้เย็น ตู้อื่นๆ และรองเท้าเพื่อขจัดกลิ่นได้
5. ชา
เป็นที่ทราบกันดีว่าใบชามีคุณสมบัติในการป้องกันแบคทีเรียและดูดซับความชื้นได้ดีมาก เพียงโปรยใบชาหรือวางถุงชาเอาไว้ในถังขยะหรือในรองเท้าของคุณ ใบชาจะดูดซับและทำให้กลิ่นไม่พึงประสงค์หายไป
6. ไอน้ำ
ไอน้ำสามารถกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้อย่างดีเยี่ยม ไอน้ำร้อนจะทำให้เส้นใยในเนื้อผ้าคลายตัวเพื่อกำจัดกลิ่น นอกจากนั้นไอน้ำยังช่วยในการกำจัดแบคทีเรีย เชื้อโรค สารก่อภูมิแพ้ และคราบบางอย่างด้วย
7. เครื่องฟอกอากาศ
เครื่องฟอกอากาศสามารถกำจัดสารมลพิษและกลิ่นไม่พึงประสงค์ออกไปจากอากาศในบ้านของคุณ เครื่องฟอกอากาศที่มีฟิลเตอร์ HEPA ช่วยในการกำจัดอนุภาคเล็กๆ ในขณะที่ฟิลเตอร์คาร์บอนจะช่วยกำจัดกลิ่น
8. น้ำหอมปรับอากาศ
น้ำหอมปรับอากาศช่วยกลบกลิ่นไม่พึงประสงค์ในบ้านของคุณได้ เลือกใช้น้ำหอมปรับอากาศที่ไม่มีสารเคมีรุนแรงหรือใช้น้ำหอมสังเคราะห์
การดูแลรักษาอากาศภายในอาคารให้สะอาดบริสุทธิ์อยู่เสมอมีความจำเป็นต่อสุขภาพกายและสุขภาพใจของคุณ อากาศที่สดชื่นช่วยให้การหายใจและสุขภาพโดยรวมของคุณดีขึ้น และทำให้บ้านของคุณเป็นสถานที่ที่น่าอยู่และสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เมื่อให้ความสำคัญกับคุณภาพอากาศภายในอาคาร คุณจะได้รับประโยชน์มากมายจากสภาพแวดล้อมในบ้านที่ดีต่อสุขภาพ
ยับยั้งกลิ่นไม่พึงประสงค์อย่างมีประสิทธิภาพด้วยระบบฟอกอากาศ nanoe™ X
เทคโนโลยี nanoe™ X สามารถผลิตอนุภาคน้ำขนาดนาโนที่มีอนุมูลไฮดรอกซิลออกสู่อากาศในบริมาณมหาศาล อนุภาคที่สามารถทำปฏิกิริยาได้ดีเหล่านี้จะเข้าจับและยับยั้งสารที่ก่อให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ที่ฝังลึกอยู่ในพื้นผิวต่างๆ เช่น เส้นใยผ้า ผ้าม่าน และโซฟา ทั้งยังช่วยให้อากาศสะอาดสดชื่นอยู่เสมอ
จากการศึกษาวิจัยพบว่า nanoe™ X สามารถลดความเข้มข้นของกลิ่นบุหรี่ลงได้ 2.4 ระดับใน 12 นาที และลดความเข้มข้นของกลิ่นบาร์บีคิวได้ 1.2 ระดับใน 2 ชั่วโมง3
การใช้ประโยชน์จากผลิตภัณฑ์ที่มีเทคโนโลยี nanoe™ X จะช่วยปรับปรุงคุณภาพอากาศภายในอาคารโดยรวมได้ เป็นการสร้างสภาพแวดล้อมที่น่าอยู่ยิ่งขึ้นและปราศจากกลิ่นไม่พึงประสงค์ที่ล่องลอยอยู่ในอากาศ
หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ nanoe™ X ของพานาโซนิค คลิก ที่นี่
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง