ลูกค้าในร้านอาหารของคุณให้ความสนใจต่อกลิ่นไม่พึงประสงค์มากกว่าที่คุณคิด: และนี่คือสาเหตุ
การระบาดของโรคโควิด-19 เป็นช่วงเวลาที่มีความท้าทายอย่างยิ่งสำหรับผู้ให้บริการร้านอาหาร
เฉพาะในสหรัฐฯ ข้อมูลในเดือนมกราคม ปี 2021 ระบุว่าจำนวนผู้บริโภคในร้านอาหารลดลง 65.91%*1 จากปีก่อนเนื่องมาจากการระบาดของโรคโควิด-19 ในสหราชอาณาจักร รายได้ในเดือนพฤษภาคม ปี 2021 ยังคงลดลงที่ 25%*2 เมื่อเทียบกับเดือนพฤษภาคมในปี 2019
นอกจากนี้ ผู้ประกอบการร้านอาหารยังต้องรับมือกฎระเบียบในการรักษาระยะห่าง สวมหน้ากาก และทำความสะอาดที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงผลกระทบทางอ้อมจากการขาดงานของพนักงานและการบังคับใช้มาตรการกักตัว และข้อมูลจาก OECD*3 ยังระบุว่า ห่วงโซ่อุปทานในอุตสาหกรรมอาหารต้องประสบกับ “ความตึงเครียดในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน” เช่นกัน
ดังนั้น ในบางครั้ง คุณภาพของบริการในร้านอาหารจึงได้รับผลกระทบไปด้วย
ในปัจจุบัน สถานการณ์ต่างๆ เริ่มคลี่คลายลงแล้ว แต่เนื่องจากแรงกดดันเหล่านี้ได้ส่งผลกระทบที่ยาวนาน หรือยังคงมีอยู่ ผู้ให้บริการร้านอาหารจะสามารถฟื้นตัวจากการระบาดได้อย่างไร และลูกค้าของคุณกังวลเกี่ยวกับสิ่งใดมากที่สุด
ประสบการณ์ของลูกค้าได้กลายเป็นสิ่งสำคัญยิ่งกว่าที่เคย
เมื่อความมั่นใจของผู้บริโภคกลับไปอยู่ในระดับเดียวกับก่อนการระบาด การสร้างสภาพแวดล้อมที่สะดวกสบาย ถูกสุขอนามัย และมีความผ่อนคลายให้แก่ลูกค้าจึงยังคงเป็นสิ่งจำเป็น
ความตระหนักถึงความเสี่ยงที่มองไม่เห็นของไวรัสในอากาศและแบคทีเรียยังคงอยู่ในระดับสูง และลูกค้าจำนวนมากยังคงให้ความสำคัญกับพื้นที่ส่วนบุคคลของตนเองมากกว่าแต่ก่อน และความเสี่ยงในการติดเชื้อจากพื้นผิวก็เป็นสิ่งที่ลูกค้าหลายรายคำนึงถึงเช่นกัน ซึ่งพวกเขาคาดหวังให้มีการใช้มาตรการทำความสะอาดที่เข้มงวดเช่นเดิม นั่นหมายความว่า ลูกค้าคาดหวังให้พนักงานของคุณฆ่าเชื้อบนพื้นผิวและมือของพวกเขาอย่างสม่ำเสมอ และทำให้แน่ใจว่าสภาพแวดล้อมในร้านอาหารมีความสะอาดและดีต่อสุขภาพ รวมถึงอาหารด้วยเช่นกัน
ในขณะเดียวกัน การระบาดก็ส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อความสามารถในการปรับตัวของพนักงานในร้านอาหาร และพนักงานจำนวนมากต้องออกจากธุรกิจไปในที่สุด พนักงานที่เหลืออยู่สามารถอดทนต่อสภาวะการทำงานที่ย่ำแย่ได้น้อยลง และตระหนักดีถึงความเสี่ยงด้านสุขภาพที่ตนเองต้องเผชิญเมื่อทำงานในหน้าที่ที่ต้องพบปะผู้คน
นั่นหมายความว่า เจ้าของร้านอาหารต้องพยายามมากขึ้นในการดึงดูดและรักษาพนักงานที่มีความสามารถ พร้อมทั้งรักษาสมดุลระหว่างความต้องการมาตรการทำความสะอาดที่เพิ่มขึ้นซึ่งเป็นสิ่งที่ลูกค้าคาดหวัง
ถึงอย่างนั้น เจ้าของร้านอาหารจำนวนมากก็ยังจัดลำดับความสำคัญผิดไป และกลิ่นไม่พึงประสงค์คือปัจจัยสำคัญ
หากพูดถึงสภาพแวดล้อมภายในร้านอาหารของคุณ แน่นอนว่าอุณหภูมิและความชื้นเป็นสิ่งสำคัญ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้มีการใช้ระบบปรับอากาศที่สามารถสร้างสภาพแวดล้อมที่สะดวกสบายกันอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพอากาศที่รุนแรง
อย่างไรก็ตาม เจ้าของร้านส่วนใหญ่มักมองข้ามความสำคัญของการควบคุมกลิ่นไม่พึงประสงค์ในส่วนของความสะอาด แบบสำรวจโดย Kao Professional Services พบว่า ในขณะที่ลูกค้า 57.1%*⁴ จัดอันดับให้กลิ่นไม่พึงประสงค์ในร้านอาหารเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อความรู้สึกด้านความสะอาด มีเจ้าของร้านเพียง 39.5%*⁵ เท่านั้นที่คิดแบบเดียวกัน
นั่นหมายความว่ามีความขัดแย้งที่เห็นได้ชัดระหว่างสิ่งที่ลูกค้าต้องการจากการรับประทานอาหาร และสิ่งที่เจ้าของร้านอาหารส่วนใหญ่ให้ความสำคัญ และเป็นที่แน่ชัดว่า การควบคุมกลิ่นไม่พึงประสงค์ไม่เคยมีความสำคัญต่อการดึงดูดลูกค้าที่กลับมาใช้บริการมากเท่านี้มาก่อน
เชฟและบริกรจะเกิดความคุ้นเคยกับกลิ่นจากการทำอาหารและกลิ่นขยะที่รุนแรงได้อย่างรวดเร็ว แต่เราไม่สามารถคาดหวังให้พวกเขารับรู้สิ่งต่างๆ จากมุมมองของลูกค้าได้ และช่องว่างในการรับรู้นี้ทำให้เจ้าของร้านไม่เข้าใจว่าสิ่งที่ลูกค้าต้องการมากที่สุดคืออะไร
การควบคุมกลิ่นไม่พึงประสงค์ในร้านอาหารจะช่วยให้สภาพแวดล้อมในร้านอาหารของคุณมีความสะดวกสบายและเป็นที่ชื่นชอบมากยิ่งขึ้น
เคล็ดลับ – การควบคุมกลิ่นเป็นสิ่งสำคัญ แต่ไม่ใช่เรื่องง่าย
กลิ่นไม่พึงประสงค์เป็นสิ่งหนึ่งที่สามารถทำให้ลูกค้าเกิดความรำคาญใจได้มากที่สุด แต่ในทางกลับกัน กลิ่นอาหารที่หอมน่ารับประทานก็เป็นองค์ประกอบที่สำคัญในอาหารมื้อหนึ่ง และอาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ดึงดูดลูกค้าเข้ามาที่ร้านตั้งแต่แรกด้วย ผู้จัดการร้านอาหารรายหนึ่งอธิบายว่า “เราได้รับคำชมเกี่ยวกับกลิ่นอาหารเป็นครั้งคราว อาจราวๆ สองครั้งต่อสัปดาห์ที่ลูกค้าที่เดินผ่านไปมาจะพูดว่า ‘กลิ่นนั้นหอมจัง’”
ดังนั้น แม้การถูกมองว่าเราให้ความสำคัญกับความสะอาดและสุขอนามัยอย่างจริงจังจะเป็นสิ่งจำเป็น แม้คุณจะมีมาตรฐานสูงอยู่แล้ว แต่คุณคงไม่ต้องการกำจัดหรือกลบทุกกลิ่นออกไปจนหมด “คุณต้องการสิ่งที่สามารถดูดซับกลิ่นได้ ไม่ใช่แข่งกับกลิ่นนั้นเหมือนเทียนหอม” ผู้จัดการอีกรายหนึ่งกล่าว
นั่นหมายความว่า คุณต้องการวิธีควบคุมกลิ่น ไม่ใช่กำจัดกลิ่นออกไปจากร้านอาหารของคุณอย่างสิ้นเชิง และวิธีการควบคุมกลิ่นเฉพาะที่ในบริเวณที่เกิดกลิ่นได้ง่าย เช่น ตู้เย็น พื้นที่เก็บขยะ และแน่นอนว่ารวมถึงห้องรับประทานอาหารของคุณด้วย
ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจที่เจ้าของร้านอาหารจำนวนมากต่างหันมาใช้เครื่องปรับอากาศที่ผสมผสานการกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์เพื่อปรับปรุงสภาพแวดล้อมให้ดีขึ้น
ขอแนะนำเทคโนโลยี nanoe™ X: การควบคุมกลิ่นและอากาศคุณภาพ
เมื่อผสานรวมเข้ากับระบบปรับอากาศ nanoe™ X สามารถยับยั้งไวรัส แบคทีเรีย เชื้อรา สารก่อภูมิแพ้ และสารอันตรายในอนุภาคฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ที่อยู่ในอากาศรอบตัวเราได้
โดยการกระจายอนุมูลไฮดรอกซิลที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ nanoe™ X สามารถจัดการกับกลิ่นไม่พึงประสงค์ภายในร้านอาหารของคุณได้ ซึ่งจะช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่น่ารื่นรมย์ยิ่งขึ้นสำหรับทั้งลูกค้าและพนักงาน
ประสิทธิภาพของ nanoe™ X ในการกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์
กลิ่นทุเรียน*6
nanoe™ X ลดความเข้มข้นของกลิ่นทุเรียน
ได้เร็วกว่าปล่อยให้ลดลงเองตามธรรมชาติ
กลิ่นบาร์บีคิว*7
nanoe™ X ลดความเข้มข้นของกลิ่นบาร์บีคิว
ได้เร็วกว่าปล่อยให้ลดลงเองตามธรรมชาติ
เนื่องจากอยู่ภายในเครื่องปรับอากาศ จึงไม่จำเป็นต้องใช้พื้นที่เพิ่ม และสามารถใช้งานผ่านรีโมตคอนโทรลหรือ Wifi ได้เพื่อการกำจัดกลิ่นตลอด 24 ชั่วโมง เจ้าของร้านอาหารมักเปิดใช้งานระบบในโหมดปรับอากาศเท่านั้นขณะร้านเปิดทำการ ก่อนจะเปิดใช้งานฟังก์ชัน nanoe™ X ในช่วงที่ปิดร้านเพื่อกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์
กำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ในร้านอาหารต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง
nanoe™ X ช่วยลดภาระงานในการทำความสะอาดของพนักงาน และยังเป็นตัวเลือกที่ประหยัดและคำนึงถึงสภาพอากาศ เทคโนโลยีนี้ประหยัดพลังงานสูง และการใช้โซลูชันแบบผสมผสานหมายถึงการหลีกเลี่ยงความจำเป็นในการแยกเครื่องปรับอากาศและอุปกรณ์ฟอกอากาศ
และเป็นขั้นตอนสำคัญในการแสดงให้ลูกค้าเห็นว่าคุณให้ความสำคัญกับสุขภาพของพวกเขามากเพียงใด และยังคำนึงถึงคุณภาพของประสบการณ์ที่ลูกค้าได้รับด้วย
เมื่อใช้มาตรการที่เหมาะสม คุณจะสามารถสร้างช่วงเวลาที่ไม่อาจลืมเลือนให้แก่ลูกค้าได้
การฟื้นตัวอย่างช้าๆ ของเราจากแรงกดดันที่สาหัสจากการระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้อุตสาหกรรมร้านอาหารมีโอกาสในการเปลี่ยนแปลงวิธีการให้บริการลูกค้าซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เนื่องจากความตื่นตัวเรื่องสุขอนามัยยังคงอยู่ในระดับสูง ผู้คนจึงยังคงคาดหวังมากขึ้นจากผู้ประกอบการร้านอาหารและระดับความสะอาดที่คุณมอบให้
นอกจากนี้ เมื่อกลิ่นไม่พึงประสงค์เป็นหนึ่งในความกังวลอันดับต้นๆ ของลูกค้า จึงไม่มีเวลาใดที่จะเหมาะสมไปกว่านี้ในการควบคุมสภาพแวดล้อมของคุณและสร้างประสบการณ์ในร้านอาหารให้น่าประทับใจอย่างแท้จริง และนี่คือจุดที่ nanoe™ X สามารถช่วยได้
*1 สถิติจาก Statista
*2 สถิติจากสำนักงานรายงานสถิติแห่งชาติ “ไวรัสโคโรนาและผลกระทบต่ออุตสาหกรรมโรงแรมในสหราชอาณาจักร: มกราคม 2020 ถึงมิถุนายน 2021”
*3 สถิติจาก “ห่วงโซ่อุปทานในอุตสาหกรรมอาหารและโรคโควิด-19: ผลกระทบและบทเรียนด้านนโนบาย” ตีพิมพ์โดย OECD, เดือนมิถุนายน ปี 2020
*4 สถิติจากแบบสำรวจ 1 โดย Kao Professional Service (ภาษาญี่ปุ่น)
*5 สถิติจากแบบสำรวจ 2 โดย Kao Professional Service (ภาษาญี่ปุ่น)
*6 องค์กรที่ทำการทดสอบ: ศูนย์วิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ของ Panasonic วิธีการทดสอบ: ตรวจสอบด้วยวิธีการใช้ตัวบ่งชี้กลิ่นหกระดับในห้องทดสอบขนาดประมาณ 23 ลบ.ม. วิธีการกำจัดกลิ่น: ปล่อย nanoe™ กลิ่นไม่พึงประสงค์ที่เป็นเป้าหมาย: กลิ่นทุเรียนที่ติดแน่นบนพื้นผิว ผลการทดสอบ: ความเข้มข้นของกลิ่นลดลง 1 ระดับใน 0.5 ชั่วโมง (1V332-180402-K01)
*7 องค์กรที่ทำการทดสอบ: ศูนย์วิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ของ Panasonic วิธีการทดสอบ: ตรวจสอบด้วยวิธีการใช้ตัวบ่งชี้ระดับความเข้มข้นของกลิ่นหกระดับในห้องทดสอบขนาดประมาณ 23 ลบ.ม. วิธีการกำจัดกลิ่น: ปล่อย nanoe™ กลิ่นไม่พึงประสงค์ที่เป็นเป้าหมาย: กลิ่นบาร์บีคิวที่ติดแน่นบนพื้นผิว ผลการทดสอบ: ความเข้มข้นของกลิ่นลดลง 1.2 ระดับใน 2 ชั่วโมง (4AA33-151221-N01)
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง