วิธีทำให้ลูกค้าชื่นชอบฟิตเนสของคุณ
ผู้ให้บริการฟิตเนสกำลังประสบกับช่วงเวลาที่ท้าทายอย่างไม่น่าเชื่อ เฉพาะในช่วง 5 เดือนแรกของการระบาด ของโรคโควิด-19 อุตสาหกรรมฟิตเนสและสุขภาพในสหรัฐฯ สูญเสียรายได้ไปถึง 13,900 ล้านดอลลาร์*1
โรคระบาดไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรของฟิตเนสอย่างรุนแรงเท่านั้น แต่ยังทำให้ผู้ใช้บริการรู้สึกกังวลเกี่ยวกับสุขอนามัยและความสะอาดมากขึ้นด้วย รวมถึงความคาดหวังต่อมาตรการฆ่าเชื้อของคุณ
ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อการทำงานแบบไฮบริดมีบทบาทมากขึ้นในชีวิตการทำงานของผู้คน กิจวัตรประจำวันจึงเปลี่ยนไป และผู้ที่เคยมาใช้บริการฟิตเนสของคุณเป็นประจำอาจไม่ได้เดินทางมาใกล้ฟิตเนสของคุณอีกต่อไป
จึงเห็นได้ชัดว่าเจ้าของฟิตเนสจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการสร้างสภาพแวดล้อมที่สะดวกสบายและถูกสุขอนามัยยิ่งกว่าที่เคยเพื่อดึงดูดให้มีการใช้บริการ ลดความกังวลของลูกค้า และทำให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการเป็นประจำ
พนักงานของคุณนั้นมีความเครียดยิ่งกว่า
เนื่องจากภาระงานของพนักงานของคุณได้เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวตลอดสองปีที่ผ่านมา
หน้าที่ในส่วนหนึ่งคือ พนักงานยังคงจำเป็นต้องดูแลอุปกรณ์ของคุณ โดยจัดการให้อุปกรณ์ทุกชิ้นเป็นระเบียบเพื่อให้ลูกค้าหาสิ่งที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย ซึ่งได้แก่ การนำอุปกรณ์ยกน้ำหนักที่ใช้แล้วกลับไปวางบนชั้น การจัดระเบียบและทำให้อุปกรณ์ต่างๆ อยู่ในที่ที่เหมาะสม (ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ เพื่อความแข็งแรง ความยืดหยุ่น หรือสร้างกล้ามเนื้อ) และแก้ไขปัญหาต่างๆ เกี่ยวกับอุปกรณ์ของคุณ
ในขณะที่หน้าที่อีกส่วนหนึ่ง ซึ่งมีความสำคัญมากกว่าที่เคย คือการดูแลรักษาสุขอนามัยของอุปกรณ์ รวมถึงห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าและพื้นที่ส่วนอื่นๆ ในฟิตเนส นั่นหมายถึงการทำความสะอาดสิ่งของที่มีการสัมผัสบ่อยๆ อย่างสม่ำเสมอ เช่น ลูกบิดประตู อุปกรณ์ยกน้ำหนัก และราวจับบนอุปกรณ์ รวมถึงการบังคับใช้มาตรการต่างๆ ที่ผู้ใช้บริการควรปฏิบัติ เช่น เช็ดทำความสะอาดอุปกรณ์หลังใช้ด้วยสเปรย์ฆ่าเชื้อ
และการควบคุมกลิ่นไม่พึงประสงค์ก็มีความสำคัญต่อสภาพแวดล้อมภายในฟิตเนสไม่น้อยไปกว่ากัน ขณะออกกำลังกาย ผู้ใช้บริการจะมีเหงื่อออกมาก ซึ่งอาจทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ในพื้นที่ออกกำลังกายและห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าของคุณได้อย่างรวดเร็ว หากลูกค้าเกิดความไม่พอใจเพียงเล็กน้อย คุณแน่ใจได้เลยว่าพวกเขาจะโพสต์ลงบนโซเชียลมีเดียทันทีเพื่อร้องเรียนเกี่ยวกับประสบการณ์ที่ไม่ดี ความจริงแล้ว การร้องเรียนบนโซเชียลมีเดีย 56.6% จากการสุ่มตัวอย่างโพสต์ 5,373 รายการเป็นความต้องการในการกำจัดกลิ่น ยกตัวอย่างเช่น:
“หนุ่มสาวจ๋า ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายเป็นสิ่งจำเป็นนะ แม้พวกเธอจะไปฟิตเนสก็ตาม! ฉันว่านั่นเป็นที่ที่ควรใช้มันมากที่สุดแล้วเพราะพวกเธอเหงื่อออกและเหม็นเหมือนขยะ! ขอทีเถอะ!”
นั่นทำให้การจัดการกับกลิ่นเท้าและกลิ่นกายในฟิตเนสของคุณเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญที่สุดในการสร้างสภาพแวดล้อมสำหรับออกกำลังกายที่ทำให้ทุกคนมีความสุข เพื่อให้ลูกค้าของคุณพอใจและลดจำนวนการร้องเรียนบนโซเชียลมีเดียให้น้อยลงที่สุด
ในขณะเดียวกัน ความต้องการของลูกค้าก็เพิ่มมากขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
ในขณะที่พนักงานของคุณเหนื่อยล้ามากขึ้น แต่ความคาดหวังของลูกค้ากลับยิ่งสูงขึ้นกว่าที่เคยตลอดช่วงการระบาดของโรค
และแน่นอนว่าความคาดหวังดังกล่าวเป็นเรื่องของสุขอนามัยและความสะอาด จึงไม่น่าแปลกใจว่าผู้ใช้บริการต่างระมัดระวังความเสี่ยงที่อาจอยู่บนพื้นผิวและในอากาศเป็นพิเศษ
ปัจจุบัน ด้วยจำนวนฟิตเนสที่กำลังเพิ่มขึ้นอีกครั้ง การแข่งขันจึงดุเดือดยิ่งขึ้น และทำให้ลูกค้ามีอำนาจในการเลือกว่าชื่นชอบสภาพแวดล้อมการออกกำลังกายแบบใด แม้ราคาของคอร์สจะมีบทบาทสำคัญในการตัดสินใจ แต่สภาพแวดล้อมก็นับว่ามีอิทธิพลมาก
และในขณะนี้ ลูกค้าเองก็พร้อมที่จะโพสต์ข้อร้องเรียนเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมภายในฟิตเนสลงบนโซเชียลมีเดียมากขึ้นเช่นกัน หากฟิตเนสของคุณเต็มไปด้วยกลิ่นไม่พึงประสงค์อยู่บ่อยครั้ง มีอุปกรณ์ชำรุด หายไป หรือไม่เป็นระเบียบ หรือมีผู้ใช้บริการมากเกินไป (โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมาตรการรักษาระยะห่างยังจำเป็นอยู่) คุณจะได้เห็นโพสต์วิจารณ์จำนวนมากบนโซเชียลมีเดียและเว็บไซต์รีวิวออนไลน์เกี่ยวกับธุรกิจของคุณอย่างแน่นอน ซึ่งผลที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อการสมัครสมาชิกและการกลับมาใช้บริการของลูกค้าของคุณ
เคล็ดลับ – สร้างพื้นฐานที่ถูกต้อง
ฟิตเนสทุกแห่งจำเป็นต้องมีหลักการพื้นฐานที่ถูกต้อง ซึ่งหมายถึงการฝึกอบรมพนักงานของคุณให้เป็นมิตรและมีความรู้เมื่อลูกค้าต้องการความช่วยเหลือ การมีปฏิสัมพันธ์กับสมาชิกเพียง 2 ครั้งต่อเดือนสามารถลดการยกเลิกสภาพสมาชิกได้สูงสุดถึง 33%*2
และยังหมายถึงการติดตั้งไฟที่เหมาะสมและทำให้รู้สึกมีพลัง ไม่ใช่การพยายามควบคุมและรักษาความปลอดภัยให้อยู่ในระดับดี เช่น การจัดหาล็อคเกอร์ชนิดเต็มรูปแบบสำหรับห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า
นอกจากนี้ คุณยังต้องทำความสะอาดให้บ่อยครั้งและทั่วถึงพอเพื่อให้สามารถควบคุมความเสี่ยงด้านสุขภาพได้ และเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ถูกสุขอนามัยและมีความปลอดภัยให้แก่ลูกค้า
ดังนั้น ประสบการณ์ที่ดีจึงหมายถึงฟิตเนสที่สะอาดและมีพนักงานที่เป็นมิตร อุปกรณ์ที่ใช้การได้ และพื้นที่เพียงพอให้ลูกค้าออกกำลังอย่างต่อเนื่องได้โดยไม่ต้องรอนานเกินไปนัก
การมีสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อง่ายขึ้นและดึงดูด (และรักษา) ลูกค้าได้มากขึ้นด้วย การสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมภายในฟิตเนสของคุณจึงสำคัญต่อความสำเร็จของธุรกิจเป็นอย่างยิ่ง
คุณเคยคิดถึงสิ่งสกปรกที่มองไม่เห็นและกลิ่นไม่พึงประสงค์ในอากาศหรือไม่
ขณะออกกำลังกาย ผู้ใช้บริการจะมีเหงื่อออกและหายใจแรงกว่ามากเมื่อเทียบกับตอนอยู่นิ่ง ซึ่งหมายความว่า นอกจากจะทำให้ในอากาศรอบตัวมีอนุภาคน้ำลาย ความชื้น และกลิ่นไม่พึงประสงค์แล้ว พวกเขายังหายใจเอาอากาศของคุณเข้าไปมากขึ้นด้วย แม้คุณอาจจะตระหนักถึงความจำเป็นในการควบคุมอุณหภูมิและความชื้นในฟิตเนสของคุณอยู่แล้ว แต่ยังมีอันตรายอื่นๆ ที่มองไม่เห็นซึ่งคุณจำเป็นต้องจัดการด้วย
นอกจากนี้ ในช่วงที่มีผู้ใช้บริการมาก คุณอาจมีผู้ใช้บริการฟิตเนสของคุณหลายร้อยรายในแต่ละวัน ดังนั้น โอกาสในการปนเปื้อนและสัมผัสกับความเสี่ยงด้านสุขภาพจึงเพิ่มสูงขึ้นไปอีก
ความเสี่ยงเหล่านี้อาจอยู่ในอากาศโดยที่คุณสามารถมองเห็น (เช่น สิ่งสกปรกและฝุ่นละออง) และมองไม่เห็น (เช่น สารก่อภูมิแพ้ ไวรัส และแบคทีเรีย) และฟิตเนสหลายแห่งมักใช้พื้นที่ในชั้นใต้ดินใต้ถนนใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งฟิตเนสที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ความสามารถในการระบายอากาศตามธรรมชาติของคุณจึงลดน้อยลงมาก
ปัจจัยทั้งหมดนี้ทำให้การปรับปรุงคุณภาพอากาศของคุณมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการสร้างสภาพแวดล้อมที่สะดวกสบายและถูกสุขอนามัยให้ผู้ใช้บริการของคุณ
แต่หากมีความต้องการใช้อุปกรณ์และพื้นที่ออกกำลังกายสูงในฟิตเนสของคุณ คุณจะสามารถสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีต่อสุขภาพและมีความสะอาดยิ่งขึ้นและปราศจากกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้อย่างไร ทางออกคือเครื่องปรับอากาศที่มีระบบฟอกอากาศในตัว
เคล็ดลับ – ปรับปรุงคุณภาพอากาศของคุณและควบคุมสภาพอากาศ
แน่นอนว่าสภาพแวดล้อมสำหรับออกกำลังกายที่สะดวกสบาย ควบคุมอุณหภูมิได้ และถูกสุขอนามัยต้องอาศัยอากาศคุณภาพดี
แม้การเว้นระยะที่เหมาะสมระหว่างอุปกรณ์จะมีความสำคัญ แต่การปรับอากาศที่มีประสิทธิภาพก็จำเป็นต่อการลดระดับความชื้นและควบคุมอุณหภูมิภายในฟิตเนสของคุณเช่นกัน
และในขณะที่ลูกค้าและพนักงานต่างตระหนักถึงความเสี่ยงด้านสุขภาพจากอากาศที่หายใจเข้าไปมากขึ้น จึงไม่น่าแปลกใจที่เจ้าของฟิตเนสต่างหันมาใช้การฟอกอากาศร่วมกับระบบปรับอากาศ
ขอแนะนำเทคโนโลยี nanoe™ X: ฟิตเนสที่สะอาดยิ่งขึ้นด้วยอากาศคุณภาพ
เทคโนโลยีการฟอกอากาศอย่าง nanoe™ X ทำงานในอากาศโดยที่คุณไม่สามารถมองเห็นได้เพื่อลดความเสี่ยงที่เกิดจากไวรัสในอากาศ แบคทีเรีย เชื้อรา และสารอันตรายที่อยู่ในอนุภาคฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5)
เมื่อนำไปใช้ในระบบปรับอากาศ nanoe™ X จะฟอกอากาศโดยการกระจายอนุมูลไฮดรอกซิลที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติไปทั่วทั้งพื้นที่ และยังมีประสิทธิภาพสูงในการกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์จากอากาศและพื้นผิวต่างๆ เช่น เส้นใย พรม และเสื้อผ้า
ไวรัสในอากาศ
bacteriophageΦχ174*3
ไวรัสเกาะแน่น
ไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ H1N1*4
กลิ่นหนังศีรษะ
bacteriophageΦχ174*5
กลิ่นเหงื่อ
กรดโนนาโนอิก*6
เนื่องจากมีอยู่ในตัวเครื่องปรับอากาศ คุณจึงสามารถปรับได้อย่างง่ายดายด้วยรีโมตคอนโทรลหรือผ่านการเชื่อมต่อ Wifi ยกตัวอย่างเช่น เพื่อการกำจัดกลิ่นตลอด 24 ชั่วโมง ฟังก์ชันนี้ช่วยป้องกันกลิ่นไม่พึงประสงค์ให้คุณได้ ตลอดทั้งวัน แม้ในขณะปิดใช้งานโหมด AC อื่นๆ
ซึ่งหมายความว่า โดยไม่ต้องใช้พื้นที่หรือเวลาของพนักงานมากขึ้น คุณก็สามารถสร้างสภาพแวดล้อมที่สะอาด และสะดวกสบายยิ่งขึ้นให้แก่ทุกคนได้
ให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการคุณอีกด้วยสภาพแวดล้อมในฟิตเนสที่ดียิ่งขึ้น
โดยทั่วไป อุตสาหกรรมการออกกำลังกายจะมีลูกค้าเข้าออกมาก ดังนั้น เจ้าของฟิตเนสจึงจำเป็นต้องนำหน้าคู่แข่งอยู่เสมอเพื่อให้อยู่ห่างไกลจากการแข่งขัน
เมื่อลูกค้าช่างเลือกยิ่งขึ้นซึ่งเป็นผลมาจากการระบาดของโรคโควิด-19 และพนักงานต้องแบกรับความต้องการที่มากขึ้นเหล่านั้น ฟิตเนสทุกแห่งจึงได้รับประโยชน์จากวิธีต่างๆ ในการปรับปรุงสภาพแวดล้อมของตนเองโดยไม่ต้องเพิ่มงานให้มากขึ้นจากเดิม
และนี่คือจุดที่ nanoe™ X สามารถช่วยได้ โดยการฟอกอากาศและจัดการกับกลิ่นไม่พึงประสงค์ nanoe™ X จึงช่วยให้คุณสร้างสภาพแวดล้อมที่สะดวกสบาย ดีต่อสุขภาพ และสะอาดสำหรับผู้มาใช้บริการซึ่งจะทำให้พวกเขาต้องกลับมาอีกหลายครั้ง
[หมายเหตุ:]
*1 สถิติจากรายงานทั่วโลกของ IHRSA ปี 2020
*2 สถิติจากรายงาน IHRSA ปี 2018
*3 ไวรัสในอากาศ (bacteriophageΦχ174) องค์กรที่ทำการทดสอบ: Kitasato Research Center for Environmental Science วิธีการทดสอบ: วัดจำนวนไวรัสหลังการสัมผัสโดยตรงในห้องปิดขนาดประมาณ 25 ลบ.ม. วิธีการยับยั้ง: ปล่อย nanoe™ สารเป้าหมาย: ไวรัสในอากาศ ผลการทดสอบ: ยับยั้งได้อย่างน้อย 99.7% ภายใน 6 ชั่วโมง (24_0300_1)
*4 ไวรัสเกาะแน่น (ไวรัสไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ H1N1) องค์กรที่ทำการทดสอบ: Kitasato Research Center for Environmental Science วิธีการทดสอบ: วัดจำนวนไวรัสที่เกาะแน่นบนผ้าในห้องปิดขนาดประมาณ 1 ลบ.ม. วิธีการยับยั้ง: ปล่อย nanoe™ สารเป้าหมาย: ไวรัสเกาะแน่น ผลการทดสอบ: ยับยั้งได้อย่างน้อย 99.9% ภายใน 2 ชั่วโมง (21_0084_1)
*5 องค์กรที่ทำการทดสอบ: Odour and Aroma Design Course, Department of Integrated Informatics, Faculty of Informatics, Daido University วิธีการทดสอบ: ตรวจสอบด้วยวิธีการใช้ตัวบ่งชี้ระดับความเข้มข้นของกลิ่นหกระดับในห้องทดสอบขนาดประมาณ 23 ลบ.ม. วิธีการกำจัดกลิ่น: ปล่อย nanoe™ สารที่ทำการทดสอบ: กลิ่นกายจำลองของคนวัยกลางคนและผู้สูงอายุซึ่งติดอยู่ที่ปลอกหมอน ผลการทดสอบ: ความเข้มข้นของกลิ่นลดลง 0.65 ระดับใน 6 ชั่วโมง
*6 องค์กรที่ทำการทดสอบ: ศูนย์วิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ของ Panasonic วิธีการทดสอบ: ตรวจสอบด้วยวิธีการใช้ตัวบ่งชี้ระดับความเข้มข้นของกลิ่นหกระดับในห้องทดสอบขนาดประมาณ 23 ลบ.ม. วิธีการกำจัดกลิ่น: ปล่อย nanoe™ กลิ่นไม่พึงประสงค์ที่เป็นเป้าหมาย: กลิ่นเหงื่อที่ติดแน่นบนพื้นผิว ผลการทดสอบ: ความเข้มข้นของกลิ่นลดลง 1.1 ระดับใน 1 ชั่วโมง (Y16HM016)
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
