โซลูชันเพื่ออากาศบริสุทธิ์มีความสำคัญอย่างยิ่งต่ออาคารพาณิชย์ในอนาคต
สถานการณ์โรคโควิด-19 ระบาดได้ส่งผลให้ธุรกิจโรงแรมให้ความสำคัญกับอากาศที่สะอาดมากขึ้นเพื่อความปลอดภัยของทั้งลูกค้าและพนักงาน
เรื่องโดย David Blecken
ภาพโดย Gregori Civera
คนส่วนใหญ่ตระหนักถึงความจำเป็นในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก แต่อาจเป็นเรื่องยากที่จะเข้าใจว่าควรปฏิบัติอย่างไรให้ได้ผลโดยไม่ส่งผลกระทบเชิงลบต่อคุณภาพชีวิต ในฐานะผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการของบริษัท Quimera Energy Efficiency นั้น Jose Luis Cárdenas Dueñas มีภารกิจที่จะส่งเสริมโลกให้สะอาดยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นความตั้งใจส่วนตัวที่เปลี่ยนเป็นเป้าหมายหมายในการทำงาน
Quimera ช่วยให้บริษัทต่างๆ ที่ดูแลอาคารพาณิชย์ลดทั้งการใช้พลังงานและลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ไม่เพียงทำหน้าที่ให้คำปรึกษาในทางทฤษฎีเท่านั้น Quimera ยังใช้รูปแบบการชำระเงินตามผลการดำเนินงาน ซึ่งหมายความว่าค่าบริการจะเชื่อมโยงโดยตรงกับการประหยัดพลังงานและค่าใช้จ่ายที่บริษัทฯ ช่วยให้ธุรกิจนั้นๆ บรรลุผลได้
“ถ้าวิธีของเราไม่ได้ผล เราก็จะไม่ได้เงิน” Dueñas กล่าวตรงๆ
Quimera ตั้งอยู่ในกรุงลอนดอนและดำเนินธุรกิจในตลาดห้าแห่ง ซึ่งทั้งบาร์เซโลนา ไมอามี ดูไบ และเซี่ยงไฮ้ วิศวกรของบริษัทฯ จะตรวจสอบและวิเคราะห์การใช้พลังงานของอาคารนั้นๆ เพื่อกำหนดวิธีที่ดีที่สุดในการควบคุมการใช้พลังงาน โซลูชันต่างๆ อาจรวมถึงการปรับปรุงประสิทธิภาพส่วนทำความเย็น การควบคุมระบบระบายอากาศตามจำนวนผู้ใช้อาคาร และแสงสว่างตามความต้องการที่ควบคุมด้วย AI ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว แต่การจัดการที่เหมาะสมสามารถลดการใช้พลังงานได้อย่างง่ายดายระหว่าง 15% ถึง 20% ซึ่งโดยทั่วไปจะเห็นผลลัพธ์ได้ในสามถึงห้าเดือนหลังจากการปรับใช้
Dueñas ให้สัมภาษณ์จากบาร์เซโลนา โดยได้พูดคุยถึงการที่สถานการณ์โรคระบาดได้เปลี่ยนแปลงระดับความตระหนักรู้เกี่ยวกับความสำคัญของคุณภาพอากาศในกลุ่มธุรกิจผู้ดูแลรักษาอาคารและประชาชนทั่วไป และการที่อาคารพาณิชย์ในอนาคตมีแนวโน้มที่จะรวมเทคโนโลยีฟอกอากาศเข้ากับการออกแบบอาคารมากขึ้น
รักษาสมดุลระหว่างการใช้พลังงานกับความสบาย
อะไรคือปัญหาท้าทายที่สุดเกี่ยวกับการประหยัดพลังงานที่โรงแรมและอาคารพาณิชย์ต้องเผชิญ
อาคารต่างๆ มีส่วนในการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 40% และโรงแรมเป็นประเภทอาคารที่ใช้พลังงานมากที่สุด เพราะ “ดำเนินธุรกิจ” ตลอด 24 ชั่วโมง 365 วันต่อปี หากเราสามารถลดการใช้พลังงานในอาคารเหล่านั้นได้ เราจะสามารถมีส่วนช่วยอย่างมากในการสร้างความยั่งยืนโดยรวม
ช่วยยกตัวอย่างโซลูชันที่คุณคิดค้นขึ้น
ไม่ได้มีเทคนิคพิเศษอะไร สิ่งหนึ่งที่ผมได้เรียนรู้คือ แต่ละสถานการณ์และอาคารแต่ละแห่งจะมีลักษณะเฉพาะและตัวแปรที่ต้องควบคุมและปรับปรุงแตกต่างกัน สิ่งที่ใช้พลังงานมากที่สุดคือ ระบบปรับอากาศ แน่นอนว่าใครๆ ก็ต้องการความเย็นสบาย เราจึงต้องหาสมดุลที่เหมาะสมระหว่างปริมาณการใช้พลังงานกับผลลัพธ์ที่เราต้องการในแง่ของความเย็นสบาย ด้วยเหตุนี้ ต้องมีการตรวจสอบและควบคุมระบบมากมาย มิฉะนั้น จะไม่มีทางพบสมดุลระหว่างการประหยัดพลังงานกับการทำตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
ตั้งแต่เกิดสถานการณ์โรคระบาด คุณพบเห็นความเปลี่ยนแปลงใดๆ เกี่ยวกับคำขอจากลูกค้าหรือไม่
สิ่งที่ให้ Quimera ให้ความสำคัญเป็นหลักคือ การช่วยให้ธุรกิจต่างๆ ลดการใช้พลังงานและลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก แต่ตั้งแต่สถานการณ์โรคระบาดเริ่มขึ้น เราได้รับคำขอเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ให้ใช้อุปกรณ์ IoT เพื่อตรวจสอบคุณภาพอากาศ การตรวจสอบคุณภาพอากาศจำเป็นอย่างมากในการดูแลให้อากาศที่เราหายใจภายในอาคารนั้นๆ มีความสะอาด และสำคัญเป็นพิเศษเวลาที่คุณจัดการประชุมขนาดใหญ่หรือมีจำนวนผู้ใช้อาคารมาก ซึ่งทำให้เราต้องหาสมดุลและตัดสินใจให้ดีว่าควรตั้งค่าระบบที่แตกต่างกันอย่างไร
โรคระบาดผลักดันความต้องการอากาศที่สะอาด
สถานการณ์โรคระบาดทำให้ผู้คนตระหนักถึงความสำคัญของคุณภาพอากาศมากขึ้นหรือไม่
แน่นอน ก่อนเกิดสถานการณ์โรคระบาด เคยมีกรอบกฎหมายต่างๆ ที่ช่วยให้แน่ใจว่าคุณภาพอากาศภายในอาคารสอดคล้องกับกฎระเบียบที่มีอยู่ ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ต้องปฏิบัติ แต่การใช้ชีวิตในช่วงสถานการณ์โรคระบาดและพบว่าโรคสามารถแพร่กระจายทางอากาศได้ ทำให้ผู้คนเกิดความกังวลมากขึ้น ซึ่งทำให้มีการใช้เครื่องฟอกอากาศและระบบ UV มากขึ้นเพื่อทำความสะอาดอากาศและปรับปรุงคุณภาพอากาศโดยรวม ที่ผ่านมา ตลาดยุโรปมักเป็นหนึ่งในผู้นำที่ตระหนักถึงความสำคัญของระบบระบายอากาศและคุณภาพอากาศ แต่ขณะนี้เราเห็นภูมิภาคอื่นๆ ตระหนักเรื่องนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ความตระหนักที่ว่านี้ร่วมด้วยเทคโนโลยีกำลังผลักดันสิ่งต่างๆ ให้ก้าวหน้า
ช่วยยกตัวอย่างคำขอทั่วไปที่คุณได้รับจากลูกค้าเกี่ยวกับคุณภาพอากาศ
นอกจากต้องการระบบระบายอากาศที่เหมาะสมและอากาศที่ดีต่อสุขภาพแล้ว ธุรกิจต่างๆ ยังต้องการหาวิธีที่จะมอบคุณภาพอากาศเช่นนี้ในพื้นที่ที่ต้องติดต่อกับสาธารณชน รวมทั้งภายในสำนักงานด้วยเช่นกัน สถานการณ์โรคระบาดทำให้มีการใช้ระบบฟอกอากาศเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในร้านอาหารและสถานที่ประชุม งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าระบบฟอกอากาศอาจมีประสิทธิภาพในการกำจัดไวรัส แม้ว่าเราจะไม่มีวิธีตรวจวัดระดับไวรัสในพื้นที่นั้นๆ ก็ตาม พูดไว้ อุปกรณ์เหล่านี้กำลังช่วยปรับปรุงคุณภาพอากาศให้ดีขึ้น สำหรับระบบปรับอากาศ ลูกค้าก็ต้องการบรรลุเป้าหมายนี้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุดเท่าที่จะทำได้
การส่งเสริมประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยี
คุณมีทัศนคติเกี่ยวกับ nanoe™ X ในบริบทนี้อย่างไร
จากสิ่งที่ผมได้พบเห็นมา เทคโนโลยีนี้มีประสิทธิภาพสูงและประหยัดพลังงานได้มาก ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่มีประโยชน์ในโลกยุคปัจจุบัน
สถานการณ์โรคระบาดทำให้เกิดความขาดแคลนบุคลากรในอุตสาหกรรมการบริการ คุณคิดว่าเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพและสมรรถนะสูงอย่าง nanoe™ X ช่วยให้ธุรกิจต่างๆ จัดการกับปัญหานี้ได้อย่างไร
เทคโนโลยีเช่นนี้ช่วยทำให้ชีวิตง่ายขึ้น เมื่อมีบุคลากรไม่เพียงพอ คุณจำเป็นต้องมีเทคโนโลยีที่เชื่อถือได้แทนเพื่อปิดช่องโหว่ในการให้บริการ เมื่อมีเทคโนโลยีที่สามารถไว้ใจได้ คุณก็จะสามารถจัดสรรทรัพยากรที่คุณมีอยู่จำกัดให้แก่ส่วนหน้างานอื่นๆ ได้ ธุรกิจต่างๆ ยังคงเผชิญกับความกดดันอย่างมากเนื่องจากสถานการณ์โรคระบาด ดังนั้น การมีเทคโนโลยีอย่าง nanoe™ X ที่ช่วยมอบความสบายในระดับที่เหมาะสมโดยมีต้นทุนค่อนข้างต่ำ จึงสามารถสร้างความแตกต่างได้อย่งมาก
คุณคิดว่าอาคารต่างๆ จะใช้เทคโนโลยีฟอกอากาศกันอย่างแพร่หลายมากขึ้นในอนาคตอันใกล้เพื่อพยายามปรับปรุงการดำเนินธุรกิจให้มีประสิทธิภาพสูงสุดหรือไม่
น่าจะเป็นไปได้ ตอนนี้ก็มีการใช้ระบบระบายอากาศอย่างดีเพิ่มมากขึ้นอยู่แล้ว ในแง่ของเทคโนโลยีอย่าง nanoe™ X สิ่งสำคัญคือต้องหาสมดุลที่เหมาะสม เช่นเดียวกับเรื่องอื่นๆ หากเป็นอาคารเก่า คุณจะต้องตรวจสอบก่อนว่าเทคโนโลยีนั้นเข้ากันได้กับโครงสร้างพื้นฐานในปัจจุบันและพิจารณาว่าการลงทุนจะคุ้มค่าในทางการเงินหรือไม่ แต่หากเป็นอาคารสร้างใหม่ ก็ควรใช้เทคโนโลยีประเภทนี้ตั้งแต่ต้น
โปรไฟล์
Jose Luis Cárdenas Dueñas
ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท Quimera Energy Efficiency
Dueñas สําเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทสาขาวิศวกรรมพลังงานและปริญญาโทสาขาบริหารธุรกิจ มีประสบการณ์ในภาคธุรกิจการประหยัดพลังงานมากว่า 10 ปี โดยช่วยให้บริษัทต่างๆ ที่ดำเนินธุรกิจโรงแรมหรูและอาคารสำนักงานลดทั้งการใช้พลังงานและปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ปัจจุบัน Quimera ดำเนินธุรกิจในภูมิภาคยุโรป ตะวันออกกลาง จีน ลาตินอเมริกา และแคริบเบียน (LATAC) รวมถึงญี่ปุ่น
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง