ความร่วมมือที่ทำให้ nanoe™ X ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นจากทั่วโลก
การใช้งาน nanoe™ X อย่างแพร่หลายทั่วประเทศญี่ปุ่น
ไม่ว่าจะเป็นในบ้าน รถไฟ หรือโรงพยาบาลทำ
ให้เทคโนโลยีนี้เริ่มเป็นที่สนใจในต่างประเทศ
เรื่องโดย Mari Maeda
ภาพโดย Kunihisa Kobayashi
คุณรู้จัก nanoe™ X เทคโนโลยีของพานาโซนิค ที่สามารถผลิตอนุภาคละอองน้ำเพื่อฟอกอากาศ กำจัดกลิ่นในอากาศ ยับยั้งเชื้อบนพื้นผิว และทำความสะอาดผิวหนังหรือไม่ คุณสามารถพบเทคโนโลยีนี้ได้ในเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน เช่น เครื่องปรับอากาศ และเครื่องฟอกอากาศ เครื่องซักผ้า ตู้เย็น และอุปกรณ์เสริมความงาม รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ที่เราใช้การดำรงชีวิต ไม่ว่าจะเป็นรถไฟ โรงพยาบาล รถยนต์ และอาคารพาณิชย์ต่างๆ เราอาจไม่ทราบว่ามีเทคโนโลยีนี้อยู่ แต่ความจริงแล้วเทคโนโลยีดังกล่าวอยู่รอบตัวเราและช่วยให้เราใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบาย
เทคโนโลยีนี้ได้รับการพัฒนาขึ้นที่โรงงาน พานาโซนิค ในเมืองฮิโกเนะ จังหวัดชิงะ ณ โรงงานแห่งนี้เอง Akihito Hirohata ที่อดีตผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ผู้รับผิดชอบ nanoe™ ในยุโรปได้ทำงานในตำแหน่งวิศวกร ตั้งแต่ปี 2016 จนถึง 2021 Hirohata มีหน้าที่รับผิดชอบในการขยายขอบเขตการขายเทคโนโลยีนี้จากสำนักงานของเขาในเมืองมิวนิค เมื่อมีการเปิดตัว nanoe™ X รุ่นใหม่ออกมา เขาก็ได้มีส่วนร่วมในการโปรโมตเทคโนโลยีนี้ตั้งแต่แรกเริ่ม เขาเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการจัดทำข้อตกลงกับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ Jaguar Land Rover ในสหราชอาณาจักร ซึ่งบริษัทนี้ได้ติดตั้งอุปกรณ์ nanoe™ X ลงไปในรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุด
"ผมภูมิใจมากที่ทำข้อตกลงนี้ได้สำเร็จ" Hirohata กล่าว "แต่สิ่งที่สำคัญกว่าสำหรับผมคือการที่บริษัท JLR มองเห็นคุณค่าของความล้ำสมัยในเทคโนโลยี nanoe™ X อย่างแท้จริงและช่วยโปรโมตประสิทธิภาพของเทคโนโลยีนี้ผ่านสื่อต่างๆ และเว็บไซต์ของตนเองอย่างต่อเนื่อง"
เราได้พูดคุยกับ Hirohata อย่างใกล้ชิดเกี่ยวกับธุรกิจต่างๆ ในญี่ปุ่นและยุโรปที่ nanoe™ X สามารถเจาะตลาดได้สำเร็จ รวมถึงอนาคตของเทคโนโลยีนี้ว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไรเมื่อเวลาผ่านไปและตลาดใดบ้างที่ยังเข้าไปไม่ถึงแต่มีศักยภาพในการนำเทคโนโลยีนี้มาใช้งาน
ดัชนี
1. การส่งเสริมจากบริษัทรถยนต์ขนาดใหญ่
การส่งเสริมจากบริษัทรถยนต์ขนาดใหญ่
คุณคิดว่าชาวยุโรปมีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับ nanoe™ X
ผมดีใจที่พูดได้ว่าธุรกิจจำนวนมากได้แสดงความสนใจต่อเทคโนโลยี nanoe™ มีบริษัทเพียงไม่กี่แห่งบนโลกเท่านั้นที่กำลังพัฒนาเทคโนโลยีแบบเดียวกันนี้ และเรามีข้อได้เปรียบที่สำคัญคือ nanoe™ ไม่ได้ถูกนำไปใช้กับผลิตภัณฑ์ของเราเองเท่านั้น แต่ Toyota และบริษัทผู้ผลิตรถยนต์อื่นๆ ในญี่ปุ่น รวมถึงบริษัทรถไฟหลายแห่งและโรงพยาบาลในญี่ปุ่นก็นำเทคโนโลยีนี้ไปใช้เช่นกัน
ในบรรดาลูกค้าของเรา JLR เป็นบริษัทแห่งแรกๆ ที่สนับสนุนแนวคิดที่ว่า คุณภาพอากาศที่ดีคือองค์ประกอบสำคัญในการสร้างสภาพแวดล้อมที่หรูหราภายในยานพาหนะ ความจริงที่ว่าพวกเขาชื่นชม nanoe™ เป็นอย่างมากทำให้เรามีความมั่นใจมากขึ้นว่าจะสามารถขยายตลาดออกไปยังภูมิภาคอื่นๆ ของโลกได้...พวกเขาสนใจความสามารถของเทคโนโลยีนี้ในการยับยั้งเชื้อ และสารที่เป็นอันตรายเป็นอย่างมาก และยิ่งสนใจมากขึ้นอีกหลังเกิดการระบาดของโรคโควิด 19
ปัจจัยที่ทำให้ JLR ตัดสินใจใช้เทคโนโลยีนี้คืออะไร
ปัจจัยในการตัดสินใจของพวกเขาคือการสาธิตกับรถยนต์จริง เมื่อคณะผู้บริหารของ JLR ตัดสินใจเดินทางมาเยือนญี่ปุ่น พวกเราได้เชิญให้พวกเขามาร่วมสังเกตการณ์ในการทดลองเพื่อกำจัดกลิ่นที่เรากำลังดำเนินการอยู่ ณ ศูนย์พานาโซนิค ในเมืองโตเกียวเพื่อให้พวกเขาได้เห็นประสิทธิภาพของ nanoe™ X ด้วยตาตนเอง เวอร์ชัน X สามารถกำจัดกลิ่นได้เร็วกว่า nanoe™ เวอร์ชันดั้งเดิมมาก และเมื่อผู้บริหารได้เห็นประสิทธิภาพนี้ก็ประทับใจมากจนเริ่มพูดคุยเกี่ยวกับข้อตกลงในทันที
JLR เป็นลูกค้าของพานาโซนิคมานานแล้ว และพวกเขาได้แจ้งให้เราทราบเมื่อไม่นานมานี้ว่าต้องการโปรโมตประสิทธิภาพในการกำจัดไวรัสและแบคทีเรียของระบบปรับอากาศในรถยนต์ของตนเองให้มากกว่านี้ พวกเขาถามเราว่าจะสามารถสื่อสารเกี่ยวกับประสิทธิภาพที่แท้จริงของเทคโนโลยีนี้ได้อย่างไร และจะเผยแพร่ข้อมูลของเราในสื่อประชาสัมพันธ์ได้หรือไม่ ผมมีความมั่นใจว่า JLR ต้องการให้ทั่วโลกได้รู้ว่ารถยนต์ของพวกเขามีความปลอดภัยเพียงใดเมื่อใช้ nanoe™
มีรถยนต์รุ่นใดบ้างที่ใช้เทคโนโลยีนี้
ขณะนี้คุณจะพบ nanoe™ ในรถยนต์รุ่นที่เพิ่งเปิดตัว เช่น Range Rover ใหม่และ Range Rover Sport รวมถึง Velar, Evoque, Defender และ Discovery เมื่อเราประสบความสำเร็จในการสร้างอุปกรณ์ nanoe™ ในรถยนต์รุ่นต่างๆ ของ JLR แล้ว การทำเช่นเดียวกันกับรถ Jaguar จึงเป็นเรื่องค่อนข้างง่าย และขณะนี้ nanoe™ ได้ถูกนำไปใช้กับรุ่น I-PACE, F-PACE และ XF ด้วย
ไม่ใช่เพียงแค่ซัพพลายเออร์เท่านั้น
แปลว่าคุณไม่ได้เป็นแค่ซัพพลายเออร์เท่านั้น แต่ยังมีส่วนในการออกแบบระบบที่นำเทคโนโลยีนี้ไปใช้งานด้วย
ใช่ครับ ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์หรือระบบ เรามักจะหลีกเลี่ยงการส่งมอบอุปกรณ์ให้แล้วถือว่างานเสร็จสิ้นแล้ว วิธีการทำงานของเราคือร่วมกันออกแบบกับลูกค้าและปรับแต่งให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมที่จะนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้งาน เพื่อให้ลูกค้าได้รับประโยชน์สูงสุดจากเทคโนโลยี
เป็นธรรมดาที่ลูกค้าของเราจะไม่ทราบวิธีการผสานรวมเทคโนโลยีที่เพิ่งใช้งานเป็นครั้งแรก นอกจากนี้พื้นที่ภายในผลิตภัณฑ์หรือระบบที่จะใช้รองรับชิ้นส่วนใหม่ยังมีจำกัดอีกด้วย เราจึงส่งผู้เชี่ยวชาญไปช่วยดูแลในกระบวนการออกแบบตั้งแต่ต้นจนจบเพื่อให้พวกเขาสามารถปรับเปลี่ยนตำแหน่งการจัดวางเพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าได้โดยอาศัยวิธีการที่ไม่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของเทคโนโลยี เราได้ใช้วิธีการเดียวกันนี้กับระบบปรับอากาศในรถไฟ รวมถึงอุปกรณ์ nanoe™ Air-e แบบติดเพดานของเรา
รถไฟ โรงพยาบาล และโรงแรม
เล่าเรื่องเกี่ยวกับลูกค้ารายอื่นๆ
ให้เราฟังบ้าง ในญี่ปุ่นมีบริษัทผู้หลิตรถยนต์หลายราย ไม่ว่าจะเป็น Lexus, Toyota และรถไฟอีกหลายสาย เช่น ผู้ประกอบการรถไฟระดับหรูหราอย่าง Seven Stars ใน Kyushu ในขณะที่รถยนต์เป็นพื้นที่ส่วนบุคคล แต่รถไฟมีสภาพแวดล้อมแบบปิด ซึ่งในช่วงเวลาหนึ่งอาจบรรทุกผู้โดยสารเพียงไม่กี่คนหรือจำนวนมากก็ได้ ผมจึงคิดว่านั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้คนมีความกังวลเกี่ยวกับอากาศในรถไฟมากกว่า และขณะเดินทางด้วยรถไฟ คุณจะมีโอกาสสัมผัสกับผู้โดยสารคนอื่นได้ง่าย รถไฟสายต่างๆ จึงให้ความสนใจ nanoe™ มากเป็นพิเศษ เนื่องจากสามารถกำจัดไวรัสบนพื้นผิวได้ด้วย ไม่ใช่แค่ในอากาศเท่านั้น และนี่คือเหตุผลว่าเพราะเหตุใด nanoe™ จึงมีประสิทธิภาพในลิฟต์ด้วย
โรงพยาบาล คลินิกทันตกรรม และสถาบันการแพทย์อื่นๆ ที่มีมาตรฐานในด้านความสะอาดสูงก็ได้นำอุปกรณ์ nanoe™ ไปใช้เช่นกัน ซึ่งบางแห่งก็ได้โฆษณาอย่างเปิดเผยว่านำเทคโนโลยีนี้มาใช้เพื่อโปรโมตมาตรฐานระดับสูงในด้านสุขอนามัยของตนเอง ในการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกส์ที่กรุงโตเกียว บริษัท Toyota ก็ได้นำอุปกรณ์ nanoe™ X มาติดตั้งในแท็กซี่ JPN ทุกคันเพื่อให้ลูกค้าได้ใช้พื้นที่ที่สะอาดและรู้สึกสบายใจ
นอกจากนี้ โรงแรมอีกหลายแห่งยังหันมาติดตั้งอุปกรณ์ Air-e และเครื่องฟอกอากาศของเรามากขึ้น แม้เราจะกำลังปรับตัวอย่างช้าๆ เพื่อใช้ชีวิตร่วมกับโรคโควิด 19 แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่รู้สึกลังเลหากจะต้องเข้าพักในห้องที่เคยมีผู้อื่นอาศัยอยู่มาก่อน แต่ด้วย nanoe™ โรงแรมจึงสามารถดูแลรักษาห้องให้สะอาดและปราศจากเชื้อโรคได้ตลอดเวลา โรงแรมหรูมักจะดึงดูดกลุ่มลูกค้าที่มีความรู้เกี่ยวกับสุขภาพและความปลอดภัยมากกว่า และผมคิดว่าคุณภาพอากาศภายในอาคารจะกลายมาเป็นปัจจัยสำคัญในการดึงดูดพวกเขา ผมเชื่อว่าอุตสาหกรรมจำนวนมากขึ้นจะพบว่าเทคโนโลยีนี้เป็นสิ่งจำเป็น
คุณคิดว่าอะไรคือคุณสมบัติที่สำคัญที่สุดของ nanoe™
เทคโนโลยีปรับอากาศส่วนใหญ่ที่พัฒนาโดยบริษัทอื่นๆ จะอาศัยการดูดอากาศที่มีกลิ่นเหม็นออกไปแล้วแทนที่ด้วยอากาศที่สะอาดบริสุทธิ์ แต่สำหรับ nanoe™ เราจะกระจายอนุภาคออกไปในอากาศเพื่อให้ยับยั้งสารต่างๆ ที่เป็นอันตราย นี่เป็นวิธีการแบบใหม่ที่ผมคิดว่าทำให้ nanoe™ แตกต่างจากคู่แข่ง พานาโซนิคเริ่มพัฒนาเทคโนโลยี nanoe™ เมื่อ 20 ปีที่แล้วเนื่องจากได้ข้อสรุปว่า การแทนที่อากาศเพียงอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอสำหรับการทำให้พื้นที่สะอาด แต่ต้องสามารถยับยั้งไวรัส และแบคทีเรียทั้งในอากาศ บนพื้น โซฟา เสื้อผ้า และพื้นผิวอื่นๆ ด้วย ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ nanoe™ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีอันเป็นเอกลักษณ์สามารถทำได้
การเติบโตที่รวดเร็วและทรงพลังยิ่งขึ้น
อัตราของอนุภาคละอองน้ำที่ผลิตจากเทคโนโลยี nanoe™ X ได้เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวภายในระยะเวลาอันสั้น แนวโน้มนี้จะดำเนินต่อไปหรือไม่
nanoe™ รุ่นแรกสามารถผลิตอนุภาคได้เป็นจำนวน 480 พันล้านอนุภาคต่อวินาที นับตั้งแต่เปิดตัว nanoe™ X อัตราดังกล่าวได้เพิ่มขึ้นเป็น 4.8 ล้านล้าน, 9.6 ล้านล้าน และปัจจุบันอยู่ที่ 48 ล้านล้านต่อวินาที หรือพูดอีกอย่างคือ อัตรานี้เพิ่มขึ้นเป็น 10 เท่า, 20 เท่า และ 100 เท่าในระยะเวลาสั้นมาก ยิ่งมีอัตราสูงเท่าใด อนุภาคก็จะสามารถทำงานได้ดียิ่งขึ้นเท่านั้น ซึ่งคุณสมบัตินี้เป็นสิ่งที่ผู้รับชมการสาธิตการกำจัดกลิ่นของเราจะเห็นได้ในทันที แน่นอนว่าเราอยากทราบว่าจะสามารถเพิ่มอัตรานี้ได้มากเพียงใด และเราทำงานร่วมกับลูกค้าเพื่อค้นหาวิธีการอื่นๆ เพิ่มเติมอีกในการนำอนุภาคเหล่านี้ไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งนี้จะช่วยผลักดันนวัตกรรมในอุปกรณ์ nanoe™ X ของเรา
อนาคตของ nanoe™จะเป็นอย่างไร
เราอยู่ท่ามกลางการระบาดของโรคซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ผมจึงหวังว่าการใช้ nanoe™ จะแพร่หลายออกไปทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง เรากำลังรับมือกับภัยอันตรายที่มองไม่เห็น และผมอยากให้เทคโนโลยีนี้ช่วยทำให้ประชาชนวางใจว่าอากาศมีความปลอดภัย ซึ่งเป็นสิ่งที่เทคโนโลยีนี้สามารถทำได้หากเราเพิ่มอัตราการผลิตอนุภาคและยกระดับประสิทธิภาพของเทคโนโลยีนี้ให้สูงขึ้น การที่ประสิทธิภาพของเทคโนโลยีนี้ได้รับการทดสอบจากทั่วโลกเป็นสิ่งที่ดี เนื่องจากเราสามารถนำผลลัพธ์เหล่านี้มาโปรโมตได้เพื่อให้ประชาชนเกิดความไว้วางใจในเทคโนโลยีนี้มากขึ้นและมีความเข้าใจที่ดียิ่งขึ้นเกี่ยวกับความสามารถของ nanoe™
nanoe™ X เวอร์ชันปัจจุบันสามารถผลิตอนุภาคได้ 48 ล้านล้านอนุภาคต่อวินาที ซึ่งขณะนี้มีวางจำหน่ายแล้วในญี่ปุ่น และเราเพิ่งเริ่มการโปรโมตในต่างประเทศ เทคโนโลยีรุ่นนี้แตกต่างจากเวอร์ชันก่อนอย่างเห็นได้ชัดคือ ใช้เวลาน้อยลงกว่าเดิมหลายเท่าในการกำจัดกลิ่นภายในพื้นที่หนึ่ง ผมคิดว่าผลลัพธ์เช่นนี้ทำให้เรามีโอกาสเข้าถึงธุรกิจที่ในอดีตอาจไม่เคยให้ความสนใจเทคโนโลยีนี้มาก่อน นอกจากนี้ เรายังได้พัฒนาอุปกรณ์สำหรับการใช้งานในเชิงพาณิชย์ที่นำ nanoe™ X รุ่นปัจจุบันไปใช้ด้วย ซึ่งผมหวังว่าจะช่วยให้เราขยายตลาดให้เทคโนโลยีนี้ได้อย่างรวดเร็ว
โปรไฟล์
Akihito Hirohata วิศวกรที่พานาโซนิค
หลังจบการศึกษาระดับปริญญาโทในสาขาวิศวกรรมเครื่องกล Hirohata ก็เข้าทำงานกับบริษัทพานาโซนิค ในปี 2011 เขาทำงานที่โรงงานพานาโซนิค ในเมืองฮิโกเนะ จังหวัดชิงะซึ่งเป็นโรงงานหลักที่รับผิดชอบเทคโนโลยี nanoe™ มานับแต่นั้น ตั้งแต่ปี 2016 จนถึง 2021 เขาได้ไปประจำการที่เมืองมิวนิค และปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งผู้จัดการผลิตภัณฑ์ให้กับอุปกรณ์ nanoe™ และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ให้แก่ธุรกิจต่างๆ ในยุโรป หลังกลับมาถึงญี่ปุ่น Hirohata ก็ยุ่งอยู่กับการออกแบบกรอบการทำงานเพื่อเก็บรวบรวมหลักฐานเกี่ยวกับประโยชน์ด้านความปลอดภัยที่ได้จากเทคโนโลยี nanoe™ และโปรโมตผลลัพธ์ที่ได้ให้กับยุโรป และอเมริกาเหนือเป็นหลัก เขามองว่าความพยายามเหล่านี้คือหัวใจสำคัญที่จะทำให้ nanoe™ ขยายตลาดออกไปสู่ระดับโลกได้เร็วขึ้น
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง