เลนส์รุ่นใหม่ได้รับการพัฒนาและผลิตขึ้นด้วยเทคโนโลยีชั้นนำของวงการ
เลนส์เป็นประตูสำหรับแสง เลนส์จึงเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของกล้องถ่ายภาพ
Panasonic ได้มุ่งเป้าไปยังการสร้างเลนส์ที่ดีที่สุด เพื่อให้ได้มาซึ่งภาพถ่ายพื้นผิวและบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติอย่างแท้จริง สิ่งนี้นำไปสู่การแนะนำเลนส์ตัวแรก* ของโลกที่มีระบบกันสั่นแบบออพติคอลสำหรับกล้องถ่ายภาพดิจิตอลคอมแพคของ Panasonic และเพื่อสร้างระบบการผลิตจำนวนมากสำหรับเลนส์ Aspherical ที่ให้ทั้งภาพที่ยอดเยี่ยมและขนาดที่กะทัดรัด นั่นคือเหตุผลที่ Panasonic ได้รับการยอมรับอย่างสูงทั้งในเรื่องของคุณภาพเลนส์และในเรื่องของเทคโนโลยีการผลิตและการประเมินผลของเลนส์อันเป็นเอกลักษณ์
Panasonic มีความภาคภูมิใจในการประกอบเลนส์ทุกชิ้น ด้วยทักษะและการดูแลเอาใจใส่อย่างสูงในแบบที่ไม่เหมือนผู้อื่น
* สำหรับกล้องดิจิตอลคอมแพคพร้อมด้วยเลนส์ซูมออพติคอล 3 เท่า ณ วันที่ 2 ตุลาคม 2003
เทคโนโลยีการผลิตเลนส์ Aspherical
คุณภาพที่สูงกว่าด้วยเลนส์ที่น้อยกว่า
เพื่อให้ได้คุณภาพของภาพที่เหนือกว่าในขณะที่ลดขนาดและน้ำหนักลง เลนส์ของ LUMIX จึงใช้เลนส์ Aspherical จำนวนมากที่มีผลต่อการป้องกันความคลาดเคลื่อนของเลนส์
เลนส์ Aspherical แต่ละชิ้นให้ผลเทียบเท่ากับเลนส์ Spherical จำนวนหลายชิ้น ดังนั้นเลนส์เพียงไม่กี่ชิ้นนี้ก็ทำให้ได้คุณภาพของภาพที่สูงขึ้น ผลลัพธ์ที่ได้คือขนาดและน้ำหนักของตัวเลนส์ที่เล็กลง
เทคโนโลยีขึ้นรูปเลนส์ขั้นสูง
Panasonic เป็นผู้ผลิตเลนส์ Aspherical โดยเริ่มต้นการวิจัยเกี่ยวกับเรื่องรูปร่างของเลนส์และวัสดุที่เหมาะสำหรับการขึ้นรูปตั้งแต่ช่วงต้น
เลนส์คุณภาพสูงที่ได้รับการผลิตขึ้นเป็นจำนวนมากโดยใช้แม่พิมพ์ที่ผลิตขึ้นมาจากเทคโนโลยีขั้นสูง และปิดท้ายกระบวนการผลิตโดยวิศวกรที่มีฝีมือในระดับสูง
Panasonic ยังผลิตเลนส์ Aspherical แบบบางพิเศษ แบบเส้นผ่านศูนย์กลางเล็ก และแบบเส้นผ่านศูนย์กลางขนาดใหญ่จำนวนมาก ซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะผลิตจำนวนมาก นอกเหนือไปจากเลนส์กล้องถ่ายภาพแล้ว เรายังผลิตเลนส์ Aspherical เส้นผ่านศูนย์กลางขนาด 1.0 มม. และเรายังเป็นผู้ผลิตรายเดียวที่สามารถผลิตเลนส์ Aspherical เส้นผ่านศูนย์กลางขนาด 80 มม. จำนวนมากได้
เข้มงวดในการควบคุมคุณภาพ
Panasonic ได้พัฒนาเครื่องมือที่เรียกว่า UA3P [Ultra-Accurate 3D Profilometer] ขึ้นเพื่อตรวจสอบเลนส์ Aspherical ซึ่งขณะนี้มีการใช้เครื่องมือนี้โดยผู้ผลิตอุปกรณ์ออพติคอลมากมาย
นอกเหนือจากการตรวจวัดอย่างแม่นยำถึง 1/10,000 มม. ด้วยการใช้ UA3P แล้ว วิศวกรของ Panasonic ยังตรวจสอบเลนส์แต่ละชิ้นด้วยตาตนเอง
การอุทิศตัวเพื่อคุณภาพของภาพที่สูงสุด
โกสต์และแสงแฟลร์ในภาพน้อยลง
การเคลือบเลนส์ LUMIX ที่ให้ความใส่ใจระมัดระวังเป็นอย่างสูง เพื่อลดการเกิดจุดแสงและเส้นแสง เพิ่มความทนทาน และเพิ่มความสวยงามของภาพในขณะที่ยังคงความสมดุลของสีที่เหมาะสมไว้
กระบวนการเคลือบหลายชั้น
นอกเหนือจากการควบคุมอัตราการสะท้อนของความยาวคลื่นหลักอย่างละเอียดแล้ว เลนส์ของ LUMIX ยังมีการเคลือบที่ช่วยลดอัตราการสะท้อนของแสงที่เข้ามาตามมุมได้อีกด้วย กระบวนการเคลือบหลายชั้นนั้นมีการใช้กันอย่างแพร่หลายในเลนส์ที่มีรัศมีความโค้งต่ำ เช่น ในเลนส์มุมกว้าง และเลนส์ fisheye นอกจากนี้ ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการแสดงผลภาพเมื่อถ่ายภาพกับแหล่งกำเนิดแสง
ยิ่งไปกว่านั้น พื้นผิวของเลนส์ยังได้รับการเคลือบหลายชั้นแบบเดิมเพื่อลดแสงสะท้อนลงอีก ซึ่งส่งผลให้ได้ภาพคุณภาพสูงพร้อมด้วยความคมชัดที่สูง
เทคโนโลยีการเคลือบผิวระดับนาโน
พื้นผิวนาโนเป็นการเคลือบแบบเดิมที่ Panasonic ใช้กับเลนส์ระดับสูง Panasonic ประสบความสำเร็จในการลดปริมาณแสงสะท้อนในช่วงแสงที่มองเห็นด้วยตาทั้งหมด (ตั้งแต่ 380 ถึง 780 นาโนเมตร) โดยการสร้างแผ่นฟิล์มบางๆ พร้อมด้วยโครงสร้างพิเศษระดับนาโนและดัชนีการหักเหของแสงที่ต่ำบนพื้นผิวของเลนส์
กระบวนการนี้ช่วยลดโกสต์และแสงแฟลร์ และแสดงภาพที่สมบูรณ์แบบและมีความคมชัดสูง การเคลือบผิวยังช่วยลดอัตราการเสื่อมและช่วยรักษาคุณภาพไว้ในระดับสูงในระยะเวลาที่นานอีกด้วย เทคโนโลยีการเคลือบขั้นสูงนี้ได้รับการยกย่องเป็นอย่างมากจากวงการกล้องถ่ายภาพและเลนส์
ความคมชัดที่น่าประทับใจ
Panasonic เป็นเจ้าของเทคโนโลยีการประกอบชิ้นเลนส์ที่พิถีพิถันและเทคโนโลยีการตั้งศูนย์กลางของเลนส์ที่แม่นยำในระดับไมครอน ความผิดพลาดในการแก้ไขความแม่นยำจะอยู่ที่ ±3 μm เพื่อปรับปรุงรายละเอียดของภาพได้ดียิ่งขึ้น โดยใช้การปรับหกแกนสำหรับแกนออพติคอลแทนที่แบบเดิมที่เป็นแบบสองแกน ซึ่งรับประกันความคมชัดของภาพอันน่าประทับใจ
การแสดงผลภาพอันยอดเยี่ยม
แม้ว่าจะมีการสร้างกล้องถ่ายภาพขึ้นมามากมาย แต่ละอันต่างใช้หลักการของแสงที่ผ่านเข้าเลนส์และได้รับการบันทึกออกมาเป็นภาพถ่ายเหมือนกัน ประสิทธิภาพของเลนส์จะต่างกันออกไป เช่นเดียวกับหน้าตาและลักษณะของภาพจากเลนส์นั้น
ความละเอียดที่คมชัด
ความละเอียดเป็นตัวชี้วัดความถูกต้องแม่นยำของการผลิต ด้วยเลนส์ของ LUMIX แม้ว่าเส้นผมเพียงเส้นเดียวก็ได้รับการประมวลผลออกมาอย่างคมชัดและรายละเอียดที่ยอดเยี่ยม
ความบิดเบือนทรงกลมที่ต่ำ
ภาพมุมกว้างที่ถ่ายด้วยเลนส์ส่วนใหญ่มักจะมีความบิดเบือนบริเวณขอบภาพ ด้วยการแสดงผลภาพอันยอดเยี่ยม เลนส์ของ LUMIX จับภาพอาคารและวัตถุต่างๆ ด้วยความชัดเจนและสวยงาม
มุมกว้างพิเศษ
เลนส์ Aspherical ซึ่งใช้กันอย่างแพร่หลายในเลนส์มุมกว้างนั้นผลิตได้ยากมาก เนื่องจากต้องมีความแม่นยำสูงในด้านขนาด แต่ Panasonic ก้าวหน้ามากในเรื่องนี้ ทำให้สามารถมอบเลนส์มุมกว้างเอนกประสงค์แก่ผู้ใช้ธรรมดาได้
เลนส์ Aspherical
ความคลาดเคลื่อนเป็นเรื่องที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ในเลนส์ทรงกลม เลนส์ Aspherical สามารถแก้ไขความคลาดเคลื่อน ส่งผลให้ลำแสงมุ่งไปที่จุดที่เหมาะสมเพียงจุดเดียว
ซูมระดับสูงและซูมระยะไกลในขนาดที่กะทัดรัด
เลนส์เทเลโฟโต้มักจะมีขนาดใหญ่และยากต่อการพกพา Panasonic ประสบความสำเร็จในการลดขนาดและลดน้ำหนักของกล้องดิจิตอลลงด้วยฟังก์ชั่นการซูมในกล้องคอมแพคเช่นในรุ่น FZ series และรุ่น TZ (ZS) series และกล้องดิจิตอลมิเรอร์เลสเลนส์เดี่ยว LUMIX G (DSLM) พร้อมด้วยเลนส์ดิจิตอลที่สามารถถอดเปลี่ยนได้
เลนส์ที่มีความบิดเบือนที่ต่ำเป็นพิเศษ
เลนส์ ED ส่วนใหญ่จะใช้ในเลนส์เทเลโฟโต้และเลนส์ซูมมุมกว้าง เลนส์ ED ยับยั้งเอฟเฟกต์การแยกสีของปริซึ่มเพื่อแก้ไขความคลาดสีในแนวยาว
เลนส์ที่รวดเร็ว
เทคโนโลยีเลนส์ออพติคอลชั้นนำของ Panasonic สร้างเลนส์ที่มีความสว่างสูง เลนส์เหล่านี้หยุดภาพวัตถุที่เคลื่อนที่อย่างรวดเร็วด้วยชัตเตอร์ความเร็วสูง หรือเก็บภาพที่คมชัดสูงแม้ในสภาวะที่มีแสงน้อยได้
• เลนส์แบบเปลี่ยนได้ LEICA DG NOCTICRON F1.2/42.5 มม.
• เลนส์แบบเปลี่ยนได้ LUMI G X F2.8 12-35 หรือ 35-100 มม.
• เลนส์ F1.7-2.8 และเซ็นเซอร์ 4/3 นิ้ว สำหรับ DMC-LX100
• เลนส์ F2.8/600 มม. สำหรับ DMC-FZ200 และอื่นๆ
ระบบกันสั่นแบบออพติคอล
O.I.S. (ระบบกันสั่นแบบออพติคอล) จะช่วยแก้ไขภาพเบลอที่เกิดจากการถ่ายด้วยมือที่ไม่นิ่ง ด้วยระบบออพติคอล ภาพที่ได้ไม่ได้ผ่านกระบวนการทางอิเล็กทรอนิกส์ ดังนั้น จึงได้ภาพที่มีการลดทอนที่น้อยลงและคุณภาพที่สูงกว่า
ภาพสวยไร้เบลอ
นอกเหนือจากการแก้ไขภาพด้วยระบบดิจิตอลแล้ว O.I.S. ยังช่วยแก้ไขการเขย่าของแกนโดยการขยับเลนส์เพื่อชดเชยแสง ดังนั้น ภาพที่ได้จะไม่ได้รับผลกระทบทางดิจิตอลหรือเสื่อมคุณภาพแม้แต่น้อย
มาตรฐานคุณภาพ Leica
นับตั้งแต่ออสการ์ บาร์นแนค (Oskar Barnack) ได้คิดค้น “Ur Leica” ขึ้นในปี 1914 Leica ได้ทำงานอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อพัฒนากล้องถ่ายภาพและเลนส์รุ่นใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีออพติคอลขั้นสูง และความก้าวหน้าทางด้านการถ่ายภาพ
ปัจจุบันนี้ มีเลนส์อยู่สามประเภท ได้แก่ เลนส์ LEICA DC สำหรับกล้องคอมแพค เลนส์ LEICA DG สำหรับ LUMIX G และเลนส์ LEICA D สำหรับ SRL ดิจิตอล เลนส์เหล่านี้ได้รับการผลิตโดย Panasonic ด้วยการใช้เครื่องมือวัดและระบบการรับรองคุณภาพที่เข้มงวดที่ได้รับการรับรองโดย Leica Camera AG
* LEICA เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Leica Microsystems IR GmbH เลนส์ LEICA DG และเลนส์ LEICA D ได้รับการผลิตโดยเครื่องมือวัดและระบบการรับรองคุณภาพที่ได้รับการรับรองโดย Leica Camera AG ตามมาตรฐานคุณภาพของบริษัท