สามทหารเสือ และอีกสองทหารพราน
ฮึกเหิม ห้าวหาญมากครับ ออกรบครั้งไหน ก็ไม่เคยจะมั่นใจเท่าครั้งนี้ เพราะทริปนี้ผมมากับ สามทหารเสือ หรือจะเรียกว่าแก๊งสามกษัตริย์ของ
Lumix full frame
เลนส์ชุดที่ควรมีเพราะสามารถตอบโจทย์งานได้ทุกลักษณะ เป็นชุดที่ดีที่สุดที่ควรมี แต่ครั้งนี้ผมจะรีวิวถึง 2 ตัวคือ Lumix S PRO 16-35 f4 และ Lumix S PRO 70-200 f2.8 O.I.S. ส่วน Lumix S 24-105 f4 นั้นผมเคยรีวิวพร้อมกับกล้อง Lumix S1R ไปแล้ว ถ้าสนใจสามารถตามไปอ่านได้ที่นี่
นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับอีก 2 ทหารพราน Tele Converter ที่ช่วยขยายช่วงระยะของ เลนส์ Tele ให้ตอบโจทย์การใช้งานเพิ่มขึ้นไปอีก ซึ่งเซทนี้ควรค่าแก่การมีติดกระเป๋าไว้อุ่นใจทุกสถานการณ์ ถ่ายร้อยทริป ปังร้อยทริปแน่นอนครับ
Design
เลนส์ Super Wide Angle ที่ทุกคนรอคอย
เลนส์ตัวนี้เป็นเลนส์ มุมกว้างตัวแรกใน L-Mount system ที่ออกแบบมาได้อย่างเพมาะสมกับการใช้งานมาก ทั้งฟังชั่นและหน้าตาของเลนส์
• วัสดุงานประกอบของเลนส์ตัวนี้ให้สัมผัสทีดีแบบเดียวกับเลนส์ของ Lumix ตัวอื่นๆ ทั้งวัสดุ ผิวสัมผัสและความแน่นหน้า
• น้ำหนักที่เบา และขนาดที่กะทัดรัดมากๆ เหมาะกับพกเดินทางไปเที่ยว
• หน้าเลนส์ขนาด 77mm เป็นขนาดมาตรฐานที่สามารถใช้ Filter ร่วมกับเลนส์ตัวอื่นๆได้ง่าย
• เวลาซูมหน้าเลนส์จะยื่นเข้าออกเพียงเล็กน้อยมากๆหมดปัญหาเรื่อง ซูมไหลโดยไม่ตั้งใจ
• Focus Ring สามารถดึงเข้าออกเพื่อนเปลี่ยนโหมด AF/MF ได้ง่ายสะดวกและมีเสกลระยะบอกอย่างชัดเจนสวยงาม
• ไม่มี O.I.S. จึงทำให้น้ำหนักเบา แต่ ทั้ง S1 และ S1R นั้น มีระบบกันสั่นอยู่ในตัวอยู่แล้วจึงไม่เป็นปัญหา
• กันน้ำ กันฝุ่น กันหิมะ
Quality
• Sharpness ความคมชัด คมกริบตั้งแต่ที่ F4 ทั้งขอบภาพและกลางภาพ ถ้าเราลองปรับ F-stop ให้แคบลงจะเห็นได้ว่ามีความคมมากขึ้นเล็กน้อย เพราะเลนส์ได้โชว์ประสิทธิภาพตั้งแต่ F4 แล้ว
• Distortion ความบิดเบี้ยว เลนส์ตัวนี้ใส่เลนส์ ASPH (Aspherical) มาถึง 3 ชิ้น ซึ่งเป็นเลนส์ที่ช่วยลดทั้งขนาดน้ำหนัก และ ความคลาดเคลื่อนทรงกลม จึงทำให้แทบไม่เห็นความบิดเบี้ยว ความบวม ความป่องจากเลนส์ตัวนี้เลย
• Focus ระบบโฟกัสของเลนส์ตัวนี้ใช้ระบบ double-magnet linear motor ซึ่งมีขนาดเล็ก ทำงานรวดเร็วและแม่นยำมาก
• Vignette หรือขอบมืด มีปรากฏให้เห็นเพียงเล็กน้อยที่ F4 แต่ถ้าเพิ่ม F-stop ไปที่ F5.6 ก็แทบไม่เห็นเลย
• Chroma aberration มีให้เห็นบริเวณขอบภาพ เวลาย้อนแสงที่คอนทราสสูงๆ ส่วนบริเวณกลางภาพมองแทบไม่เห็น
Sharpness ความคมทำได้ดีตั้งแต่ F4 ทั้งบริเวณกลางภาพและขอบภาพ
Chroma aberration & Vignette
มีให้เห็นบริเวณขอบภาพ เวลาย้อนแสงที่คอนทราสสูงๆ ส่วนบริเวณกลางภาพแทบมองไม่เห็นเลย
ข้อดีของการที่เลนส์มีน้ำหนักเบา โฟกัสรวดเร็ว กันละอองน้ำ กันฝุ่น คือทำให้นำไปใช้ในสถานการณ์ต่างๆ ได้สะดวกขึ้น โอกาสได้ภาพดีๆ ง่ายขึ้น และสบายใจหายห่วงว่าเลนส์จะทำงานได้ปกติ ไม่ลาเราไปเสียก่อน
อย่างในรูปนี้ ผมเอากล้องและเลนส์ลงเรือคายัคไปด้วย ซึ่งโดนทั้งน้ำกระเซ็นใส่ ทั้งมือเปียกชุ่มแล้วก็ต้องมาถือกล้อง แถมยังเป็นน้ำเค็มอีกด้วย แต่ผมก็ยังสามารถใช้งานได้อย่างมั่นใจ เมื่อใช้งานเสร็จก็เช็ดด้วยน้ำจืดซักรอบแค่นี้ก็เรียบร้อย
การโฟกัสในที่แสงน้อย รวดเร็วแม่นยำ มั่นใจ
ความบิดเบี้ยวแทบไม่ปรากฏให้เห็น
ส่วนความหิวนั้นไม่เคยปราณีใคร
Design
• วัสดุที่ใช้หนักแน่นตามไสตล์ LUMIX ผิวสัมผัสมาแบบเดียวกับเลนส์ตัวอื่นๆ ให้ความรู้สึกพรีเมี่ยม ไม่เป็นรอยง่าย
• น้ำหนักกว่าโลครึ่ง เพราะได้ใส่เทคโนโลยีและชิ้นเลนส์ที่ดีที่สุดและระบบกันสั่นที่ดีที่สุดมาในเลนส์กระบอกนี้
• ปุ่มเยอะมาก ทั้งปุ่ม ปรับเลือกระยะโฟกัส ใกล้ไกล ปุ่มเลือก ระบบกันสั่น Mode1/2 และปุ่ม Fn 3 ปุ่ม Custom ได้ตามใจชอบ
• หน้าเลนส์ขนาด 82 mm ใหญ่ที่สุดของ Lumix เท่าที่เคยมีมา
• Focus Ring สามารถดึงเข้าออกเพื่อนเปลี่ยนโหมด AF/MF ได้ง่ายสะดวกและมีสเกลระยะบอกอย่างชัดเจน เสียงหนักแน่น (เลนส์ในซีรีย์นี้ ออกแบบ Focus ring แบบนี้ทั้งหมด ซึ่งทำงานได้คล่องตัวและสะดวกมาก)
• ที่ Collar ของเลนส์ สามารถใส่บนขาตั้งกล้อง ที่มีหัวระบบแบบ Arca-Swiss ได้เลย
• กันน้ำ กันฝุ่น กันหิมะ
Quality
• Sharpness ความคมทำได้ดีที่สุดที่กลางภาพตั้งแต่ 2.8 ที่ขอบภาพมีความคมชัดลดลงเล็กน้อย แต่ถ้าหรี่ F-Stop ไปที่ 4 ก็จะคมเหลือเฟือ
• Focus ระบบโฟกัสเร็วมากถึงมากที่สุด แม่นยำ นุ่มนวล เร็วกว่า 70-200 f4 อย่างเห็นได้ชัด แม้ในที่แสงน้อยๆ ก็ไม่มีอาการวืดวาดให้เห็นเลย
• Distortion ด้วยความที่เป็นเลนส์ Tele ความบิดเบี้ยว ความป่อง ของเลนส์มีน้อยอยู่แล้ว ประกอบกับเลนส์ตัวนี้ได้ใส่ชิ้นเลนส์ ASPH (Aspherical) มาด้วย เลยทำให้ไม่เห็นความบิดเบี้ยวเลย
• Vignette มีให้เห็นบ้างที่ F-Stop ที่กว้างที่สุด แต่จะน้อยลงเรื่อยๆ เมื่อหรี่ F-Stop ลงมา
• Chroma Aberration มีให้เห็นบ้างที่ F-Stop ที่กว้างที่สุด บริเวณขอบภาพแต่ถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับเลนส์อื่นๆ
• O.I.S. กันสั่นแบบ optical เมื่อทำงานร่วมกับ กันสั่นบนกล่องด้วยระบบ Dual I.S 2 แบบ 5 แกน ช่วยกันสั่นได้ถึง 7 Stop !!!!!!!!!! ซึ่งการใช้งานจริงๆ 5 Stop ก็เหลือเฟือมากๆ แล้ว ทำให้มั่นใจทุกครั้งเวลากดชัตเตอร์ว่าจะได้ภาพที่ไม่สั่นจากมือเราแน่นอน
• ปุ่มต่างๆ และ FN Button มีมาให้ใช้แม้กระทั่งบนเลนส์ สามารถปรับแต่งได้ตามแต่สะดวกของแต่ละคน ทำให้ตอบสนองการใช้งานได้ดีมาก
Sharpness ความคมทำได้ดีที่สุดที่กลางภาพตั้งแต่ 2.8 ที่ขอบภาพมีความคมชัดลดลงนิดหน่อย แต่ถ้าหรี่ F-Stop ไปที่ 4 ก็จะคมเหลือเฟือ
การโฟกัสวัตถุ โดยผ่านฉากหน้า ทำได้แม่นยำไม่วืด หรือเราจะใช้การปรับระยะโฟกัสที่เลนส์ไปที่ 5 m-Infinity ก็ได้
ย้อนแสงตรงๆ แรงๆ มีอาการโกสให้เห็นน้อยมาก
โฟกัสแม้ในที่แสงน้อย ก็ทำงานได้เนียนกริ๊บ
DMW-STC14GC
Tele Converter 1.4 เมื่อใส่กับ 70-200 จะได้เท่ากับ 98-280 F4 (F-stop เพิ่ม 1 Stop)
DMW-STC20GC
Tele Converter 2 เมื่อใส่กับ 70-200 จะได้เท่ากับ 140-400 F5.6 (F-stop เพิ่ม 2 Stop)
ศุภการ ศุภมงคล (Mixrinho)
ช่างภาพอิสระ เชี่ยวชาญในการถ่ายรูปอาหาร และสินค้า มีความหลงใหลส่วนตัวในการเดินทาง กาแฟ กางเกงยีนส์ และความวินเทจ จึงมีผลงานภาพถ่ายที่หลากหลายแนว นอกจากนั้นยังถ่ายทอดประสบการณ์การท่องเที่ยวที่บอกเล่าการเดินทางร่วมกับแฟนสาว ในเพจ Faloo Mi
เริ่มใช้กล้อง Lumix จากรุ่น GX8 จนปัจจุบัน Lumix S1R คือกล้องคู่กาย
ติดตามชมผลงานเพิ่มเติม IG : Mixrinho / FB : Faloo Mi / www.Mixrinho.com