Lumix S5 with Lens Kit 20-60
The Perfect All-Round Fullframe
Feature Spec
- CMOS 24.2MP
- Dual Native ISO
- 4K 60p 4:2:0 10 bit / 4K 30p 4:2:2 10bit + V-Log 14 + Stop
- Deep LearningAF
- Dual I.S.2 6.5 stop
- Splash/Dust resistant
The Perfect All - Round Fullframe
Lumix S5 เป็นกล้องรุ่นที่ 4 ในตระกูลLumix S Series กล้องในตระกูล S Series ซึ่งทุกตัวก่อนหน้านี้ถูกออกแบบโดยเน้นไปที่ประสิทธิภาพที่ดีที่สุดในแต่ละด้าน เช่น Lumix S1R ที่โดดเด่นในด้านภาพนิ่งมากๆ หรือ Lumix S1H ที่โดดเด่นในเรื่องของ VDO อย่างหาตัวไหนมาเทียบได้ยากในกล้องระดับนี้แต่สำหรับ Lumix S5 ตั้วนี้นั้นแตกต่างออกไปจากตัวอื่น
กล้องรุ่นนี้ได้ถูกดีไซน์มาให้สามารถทำงานได้ดีทั้งงานภาพนิ่งและวีดีโอด้วยฟังก์ชั่นต่างๆ ที่ถูกใส่มาอย่างครบครัน อีกทั้งการออกแบบ วัสดุ รูปร่างที่กะทัดรัดลงอย่างมาก แต่ยังจับได้ถนัดมือ ใช้งานได้สะดวกเหมือนเดิม จึงเหมือนเป็นหนึ่งในฟีเจอร์หลักของกล้องตัวนี้ไปเลย
Design
สิ่งแรกที่ทำให้ผมประทับใจมากคือขนาดที่เล็กลง และน้ำหนักที่เบาลงเมื่อเทียบกับ S Serie ตัวอื่นๆ ส่วนกริปที่จับยังให้ความรู้สึกถนัดและมั่นคงเหมือนเดิม ปุ่มควบคุมก็ได้มีการปรับย้ายใหม่ ไม่ว่าจะเป็นปุ่ม เปิด-ปิดที่กลับมาอยู่ตำแหน่งเดียวกับ Lumix GH5 ซึ่งผมชอบตำแหน่งนี้มากกว่า เพราะเข้าถึงได้ง่าย จอยสติ๊กด้านหลังที่ผมชอบมากจากรุ่นพี่ๆ ก็ยังอยู่ในตำแหน่งที่ใช้งานได้ดีเหมือนเดิม อีกปุ่มนึงที่ผมชอบใน Lumix เกือบทุกรุ่นคือ ปุ่มเลือกรูปแบบการโฟกัส ซึ่งทำให้เข้าถึงได้ง่ายและมีประโยชน์อย่างมาก
วัสดุงานประกอบของ Lumix เกือบทุกตัว จะใช้เป็น Magnesium Alloy อยู่แล้วซึ่งทั้งคงทนแข็งแรงแน่นอน ประกอบกับผิวสัมผัสที่ไม่มัน ไม่ด้านจนเกินไปทำให้รักษาความสะอาดได้ง่าย และสวยงาม
อีกสิ่งหนึ่งที่แตกต่างออกไปจากรุ่นพี่ๆ คือ Lumix เลือกกลับไปใช้ จอพับแบบเดิม แบบใน Serie G ซึ่งจอพับแบบที่หมุนออกมาด้านข้างได้ และหมุนได้ในทุกมุม ทุกองศานั้น ทำให้สามารถหมุนมาถ่าย Selfie ตัวเองได้ และเข้าถึงมุมกล้องยากๆ ที่ต้องเอากล้องสอดเข้าไปในที่แคบๆ ได้อย่างสะดวก
Image Quality
สิ่งหนึ่งที่ควรคำนึงถึงเป็นอันดับต้นๆ เวลาจะเลือกซื้อกล้องสักตัวคือ Image Quality ที่ต้องให้ภาพที่สวยงามในทุกสภาพแสง ต้องให้ภาพที่ไล่โทนที่ต่อเนื่องสวยงาม LumixS5 มีเซนเซอร์ที่ดี สามารถถ่ายทอดสีสันได้สวยงามมากแม้เป็นไฟล์ JPG และยังมี DR ถึง 14 stop ทำให้บันทึกความต่างของแสงออกมาได้อย่างครบถ้วน
Dual Native ISO เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมรู้สึกเซอร์ไพรส์มาก กล้องตัวนี้เป็นกล้อง Full Frame ตัวแรกที่มี Native ISO ถึงสองช่วง ทำให้เมื่อถ่ายภาพในที่แสงน้อย ภาพก็ยังมีความใสเคลียร์ มีสัญญานรบกวนที่น้อยกว่ากล้องตัวอื่นๆ มาก ประกอบกับเซนเซอร์ตัวนี้ที่ให้ภาพขนาด 24 mp แต่ละเม็ด pixel มีขนาดใหญ่ 5.93 microns จึงรับแสงได้ดีมากอีกด้วย
Dual Native iso โดยปกติแล้ว กล้องถ่ายรูปกว่า 95% ในตลาดตอนนี้ จะมีค่า Native ISO หรือที่เราจะคุ้นกันคือ ค่า ISO เริ่มต้นที่ดีที่สุดของแต่ละกล้อง อยู่1 ค่า ไม่ว่าจะเป็น 50,100,160,200 ขึ้นอยู่กับการออกแบบของแต่ละค่าย แต่ละรุ่นของกล้องแต่ละตัว ซึ่งสำหรับการใช้งานในเวลากลางวันที่มีแสงเพียงพอก็ถือว่าไม่มีปัญหาอะไรมากวนใจ แต่เมื่อเราต้องการใช้กล้องถ่ายภาพในที่แสงน้อย ปัญหี่เกิดขึ้นคือ noise ที่เพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเราใช้ ISO สูงๆ Lumix จึงได้ออกแบบ วงจรการใช้ Native ISO เพิ่มขึ้นมาอีกค่าหนึ่งสำหรับใช้ในที่แสงน้อย เพื่อแก้ปัญหานี้ทำให้กล้องที่มี Dual Native ISO ตัวนี้ให้ภาพได้ดีงามทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมชอบที่สุดในกล้องตัวนี้
Live View
Live View คือสิ่งที่พัฒนาขึ้นในกล้อง Lumix S5 และเป็นประโยชน์ในการใช้งานอย่างมาก เมื่อต้องถ่ายภาพในที่แสงน้อยๆ ตัวอย่างเช่น การเอากล้องไปตั้งถ่ายดาว ซึ่งการตั้งค่ากล้องที่ ISO 6400 f5.6 โดยปกติเราแทบจะมองไม่เห็นเฟรมภาพเลย ต้องกะระยะเอาคร่าวๆ แล้วถ่ายมาเช็คทีละรูป
แต่สำหรับ S5 นั้นภาพใน Viewfinder จะสว่างจนเห็นเฟรมภาพที่เราต้องการ แล้วสามารถเลือกระยะโฟกัสได้ทันทีเลย เป็นฟังก์ชั่นที่มีประโยชน์ในการใช้งานมาก ทำให้สถานการณ์ที่ถ่ายภาพได้ยากเป็นเรื่องง่ายทันที
Focus System
ระบบโฟกัสของ Lumix S5 ใช้ระบบโฟกัสแบบ DFD (Depth-from-Defocus) ได้ถูกพัฒนาต่อยอดจากรุ่นพี่ๆ เพิ่มขึ้นมาอีกมาก ทั้งในเรื่องของความแม่นยำและความเร็ว ซึ่งได้มีการพัฒนา Ai ในการช่วยโฟกัส ทั้ง Head focus ที่สามารถใช้งานในสถานการณ์จริงได้อย่างแม่นยำ ทั้งในรูปแบบของ AF-S และ AF-C ที่เกาะติดตาของแบบในทุกๆ จังหวะ
แม้แบบจะหันหลังหรือหันข้างในมุมที่เห็นดวงตาไม่ใช่เจน ก็จะปรับไปใช้ Headfocus ทันทีทำให้ใช้งานได้ง่ายและสะดวกมาก ซึ่งถ้าเราใช้งานในภาพที่แบบอยู่ไกลมากๆ ระบบก็ยังสามารถตรวจสอบและโฟกัสแบบเต็มตัวได้อีกด้วย
นอกจากระบบโฟกัสหน้าคนแล้ว ยังได้มีการพัฒนาAi ให้สามารถ detect สัตว์ได้หลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น สุนัข แมว ม้า เป็ด เป็นฟีเจอร์ที่เพิ่มความสะดวกและความสนุกในการใช้งานได้ดีเลยทีเดียว
Image Stabilization
สำหรับผมแล้ว ในยุคนี้ระบบกันสั่นบนเซนเซอร์ถือว่าควรเป็นฟังก์ชั่นพื้นฐานที่กล้องควรจะมี เพราะมันช่วยอำนวยความสะดวกและเพิ่มโอกาสการได้ภาพให้มากขึ้นในสถานการณ์ที่เราควบคุมได้ยาก ซึ่งใน Lumix S5 นั้นระบบกันสั่นจากบนเซนเซอร์สามารถทำงานได้ถึง 5 stop ซึ่งถ้าใช้ทำงานควบคู่กับเลนส์ของ Lumix ที่ถูกเรียกว่า Dual I.S. 2 ก็จะสามารถทำงานได้ถึง 6.5 stop เมื่อนำมาใช้งานจริง
ดังนั้นไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ไหนก็หมดกังวล ไม่ว่าจะยกกล้องถ่ายด้วยมือเดียว หรือเดินไปถ่ายไปยกกล้อง snap ถ่ายเร็วๆ ก็ได้ภาพชัดแน่นอน ยิ่งในช่วงแสงน้อยๆ ทำให้ผมลืมขาตั้งที่ต้องใช้ประจำไปได้เลย
Battery & Memory
The new BLK22 เป็นแบตเตอรี่รุ่นใหม่ ที่ทาง Lumix เคลมไว้ว่าสามารถใช้งานถ่ายภาพได้ประมาณ 470 shots จากจอ LCD แต่จากการใช้งานจริงในรูปแบบของผม ผมสามารถถ่ายได้มากกว่า1,500 รูป ด้วยแบต 1 ก้อน ใน 1 วัน ซึ่งถือว่าน่าประทับใจมาก นอกจากนี้เรายังสามารถชาร์จแบตกล้องโดยตรงด้วยแบตสำรอง Power Bank ผ่าน USB Type-C ได้อีกด้วย และที่ดีไปกว่านั้น แบตเตอรี่รุ่นนี้ สามารถนำไปใช้กับกล้อง Lumix G9/GH5/GH5s ได้อีกด้วย
สำหรับ Memory Lumix S5 ใช้แบบ SD Card 2 slot ซึ่งทำให้กล้องมีขนาดเล็ก และสะดวกสบายด้วยการพกพาการ์ดเพียงชนิดเดียวซึ่ง SD Card ในตลาดตอนนี้มีให้เลือกใช้หลากหลายความจุ และความเร็วซึ่งยังมีราคาไม่แพงด้วย
LEN KIT
20-60 MM / F3.5-5.6
S-R2060 เมื่อได้เห็นเลนส์ตัวนี้ครั้งแรก ผมถึงกับต้องตรวจดูช่วงระยะเลนส์ให้ละเอียดอีกครั้ง เพราะว่าเป็นช่วงเลนส์ที่แทบจะไม่ค่อยได้เห็นทั่วไป แต่ก็เป็นช่วงเลนส์ที่น่าสนใจมากๆ เพราะช่วงกว้างที่สุดถึง 20 mm กว้างกว่าเลนส์คิททั่วไปถึง 4mm
เมื่อได้จับของจริง สิ่งแรกที่สัมผัสได้คือ ความเล็ก ขนาดพอดิบพอดีกับ Lumix S5 เมื่อทดลองใช้งาน ช่วงความกว้างที่เพิ่มมา 4mm มีประโยชน์ในการใช้งานจริงมาก ถึงแม้จะต้องเสียบระยะ tele ไปสักหน่อย แม้เลนส์คิทตัวนี้จะไม่ได้ให้คมความโดดเด้งเท่าเลนส์ Lumix S Pro แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่โอเค เนียนตาใช้งานได้สะดวก หลากหลาย พูดได้ว่าผมหลงรักเลนส์ช่วงนี้ จนแอบหวังเล็กๆ ว่า Lumix จะทำเลนส์ช่วงแบบนี้ใน ระดับ S Pro ออกมาเพิ่มอีก
Lumix S5
จุดเด่น
- Dual ISO
- เล็ก เบา คล่องตัว
- ราคาดีที่สุดในรุ่นใกล้เคียง
- คุณภาพในแบบ Lumix (คุณภาพไฟลที่ดีโดดเด้ง,คม,หล่อ)
- เลนส์คิทใช้สนุกมาก
จุดด้อย
Lumix S5 เป็นกล้องรุ่นที่ผมอยากจะบอกว่าไม่มีจุดด้อยเลยในมุมมองของผม
เหมาะกับใคร
Lumix S5 คือกล้องที่ตอบโจทย์ในทุกสถานการณ์ และเป็นหนึ่งในกล้อง Mirrorless Full Frame ที่น่าใช้ที่สุดในช่วงนี้
ผมคิดว่าช่วงนี้ ใครที่มี plan จะซื้อกล้องสักตัวไม่ว่าจะเป็นมือใหม่ที่อยากได้กล้องเป็นตัวแรก ไว้ถ่ายเวลาไปเที่ยว ถ่ายแฟน ถ่ายไลฟ์ไสตล์ หรือว่าจะเป็นมือเก๋า ที่อยากอัพเกรดกล้อง จาก Mirrorless ตัวเดิม นี่เป็นช่วงที่เหมาะที่สุดในการซื้อกล้อง Mirrorless Full Frame อย่าง Lumix S5
ศุภการ ศุภมงคล (Mixrinho)
ช่างภาพอิสระ เชี่ยวชาญในการถ่ายรูปอาหาร และสินค้า มีความหลงใหลส่วนตัวในการเดินทาง กาแฟ กางเกงยีนส์ และความวินเทจ จึงมีผลงานภาพถ่ายที่หลากหลายแนว นอกจากนั้นยังถ่ายทอดประสบการณ์การท่องเที่ยวที่บอกเล่าการเดินทางร่วมกับแฟนสาว ในเพจ Faloo Mi
เริ่มใช้กล้อง Lumix จากรุ่น GX8 จนปัจจุบัน Lumix S1R คือกล้องคู่กาย
ติดตามชมผลงานเพิ่มเติม IG : Mixrinho / FB : Faloo Mi / www.Mixrinho.com