Lumix S1R + Lumix 24-105 F4 Macro OIS ที่สุดแห่งความมั่นใจ
Overview Feature ที่น่าสนใจ
• 47.3 MP
• High Res-Mode 187 MP
• Lowlight // 6 -stop Dual i.s.
• Dynamic Range
• Deep Learning Focus(Animal Detect)
• Dust and splash resistant > -10 c
• L – Mount
ถ้าให้เลือกกล้องสักตัวนึงเพื่อเดินทางกับผมไปทุกที่ ที่ผมจะได้พบประสบการณ์ที่ดีที่สุด โมเม้นต์ที่สวยที่สุด จะต้องเป็นกล้องที่ให้ความมั่นใจได้ว่า จะบันทึกสิ่งเหล่านนั้นได้กลับมาอย่างครบถ้วน ทั้งสีสันรายละเอียดอารมณ์ และความรู้สึก
ในปี 2019 Lumix ได้เปิดตัวกล้อง Mirrorless Full frame กับ คอนเซปที่ว่า Full frame without Compromise ใน Serie S ซึ่งประกอบไปด้วย กล้องสามตัวคือ
• S1R (สายภาพนิ่ง)
• S1(ไฮบริด)
• S1H (VDO)
ซึ่งผมได้เลือก S1R มาใช้ เพราะเหมาะสมกับความถนัดและงานของผม ที่เน้นการใช้งานภาพนิ่งเป็นหลักไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวและการทำงานใน Studio ไมว่าจะถ่ายอะไรก็ครอบคลุมและครบเครื่องไปหมด
Lens Lumix 24-105 F4 Macro OIS (เลนส์ตัวเดียวเที่ยวทั่วโลก)
“เลนส์ตัวเดียวเที่ยวทั่วโลก” เมื่อพูดประโยคนี้ออกมา เมื่อก่อนผมมักนึกถึงเลนส์ซูมระยะเยอะๆ คุณภาพแย่ๆ มีดีแค่ซูมได้เยอะ และผมไม่เคยคิดจะเลือกใช้เลยเนื่องจากเหตุผลต่างๆ นานา แต่เลนส์ LumixS 24-105 F4 Macro OIS กลับทำให้ความรู้สึกทั้งหมดของผมเปลี่ยนไป
อย่างแรกที่ให้ผมเซอไพรส์มากๆ คือ ความคม ไม่น่าเชื่อว่าเลนส์ซูมเยอะๆ แบบนี้จะคมตลอดช่วง จนไม่รู้สึกว่า ใช้เลนส์ซูมอยู่เลย อย่างที่สองคือโฟกัสและกันสั่นที่แม่น และไวมาก สามารถกดได้อย่างมั่นใจ ไม่ต้องคิดเยอะว่าต้องโฟกัสไปที่จุดคอนทราสสูงๆ และไม่ต้องใช้ท่าหนีบศอกประคองสองมือให้แน่นกลั้นหายใจแล้วกดเพื่อให้ภาพชัดเหมือนแต่ก่อน ผมสามารถเดินแล้วยกถ่ายมือเดียวอย่างมั่นใจได้เลย ว่าจะได้รูปชัวร์ๆ ด้วยระยะที่ครอบคลุมการใช้งาน ตั้งแต่ระยะกว้างๆ ไปจนถึงระยะเทเล แถมยังมีระยะโฟกัสที่ใกล้มาก ทำให้ผมคิดว่ามันเป็นเลนส์ตัวแรกที่ผมจะนึกถึง เมื่อต้องออกเดินทาง
เมื่อ Lumix S1R ประกบกับ LumixS 24-105 F4 Macro OIS
นี่แหละคือความบ้าพลังจริงๆ ทั้งคุณภาพและขนาด รวมถึงน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นมาพร้อมกับคุณภาพที่คาดไม่ถึง ในทุกๆครั้งที่กดซูม 100% ผมสามารถมองเห็นรายละเอียดในทุกๆ พื้นผิวที่ไม่คิดว่าจะเห็นได้จากภาพถ่าย อีกทั้งการเก็บ Dynamic Range ก็ล้นเหลือสบายมาก เมื่อกล้องและเลนส์คู่นี้มาอยู่ด้วยกันแล้ว ผมรู้สึกมั่นใจได้เลยว่ายังไงก็ไม่พลาด ถึงพลาดกล้องก็สามารถช่วยแก้ไขให้ได้ ไม่ว่าในสถานการณ์ที่ยากหรือซับซ้อนแค่ไหนก็ตาม
ออกกอง
ในครั้งนี้ผมเลือกเอากล้อง Lumix S1R และเลนส์ 24-105 F4 Macro OIS ไปเที่ยวที่ญี่ปุ่น ประเทศที่มีความสวยงามทั้งธรรมชาติ วิวทิวทัศน์ วัฒนธรรม และผู้คน ซึ่งมีความหลากหลาย เหมาะกับการทดสอบประสิทธิภาพของกล้องและเลนส์อย่างยิ่ง
47.3 MP
Lumix S1R ให้ไฟล์ขนาด 47.3 MP ซึ่งเป็นที่ีรู้กันดีอยู่แล้วว่ากล้องที่ไฟล์ใหญ่ขนาดนี้มันจะขี้ฟ้อง ผมหมายถึงว่า ไม่ว่าเราจะพลาดนิดพลาดหน่อย หรือเอาเลนส์อะไรที่ไม่ดีพอมาใส่ให้กับกล้อง ก็จะเห็นได้ชัดเจนมาก แต่กับเลนส์ตัวนี้ เหมือนกับเกิดมาคู่กัน สมน้ำสมเนื้อ จะครอปเข้าไปตรงไหนก็ให้ความสบายใจได้หายห่วงจริงๆ
ภาพสี่ภาพก่อนหน้านี้เกิดจากการครอปภาพนี้ภาพเดียว จะเห็นว่าภาพที่ได้ มีดีเทล รายละเอียดและความคมชัดระดับที่ใช้งานได้สบาย
** ณ ปลายปี 2019 WWW.DxoMark.com เซนเซอร์ของ S1R ทำคะแนนสูงที่สุดเท่าที่เคยมีมาร่วมกับเรือธงของเพื่อนๆ อีกสองค่าย
High res Mode (187 MP)
47.3MP สำหรับผมถือว่าเป็นไฟล์ที่ใหญ่อลังการเอาเรื่องแล้ว แต่ยังไม่พอสำหรับกล้องตัวนี้ เพราะยังมี High Res Mode ที่ให้ไฟล์ขนาด 187 MP ที่เป็น raw อีกด้วย ทำให้สามารถเก็บรายละเอียดได้มากขึ้นกว่าเดิมถึง 4 เท่า งานนี้จะเอาไปขยาย ไปครอปแค่ไหนก็สบาย ใช้งานได้เต็มที่แบบไม่ต้องเป็นกังวลใจใดๆ เลย
ซึ่ง mode นี้จะทำงานโดยการใช้ระบบกันสั่นบนเซนเซอร์ โดยการขยับเซนเซอร์ไปทีละนิดขณะถ่ายทั้งหมด 8 รูป แล้วนำภาพที่ได้มารวมกัน เพื่อประมวลผลให้เกิดภาพขนาดใหญ่ขึ้นนั่นเองครับ แต่ถึงยังไงผมก็แนะนำว่าควรใช้ขาตั้งกล้องเพื่อคุณภาพภาพที่ดีที่สุดเช่นกัน
Lowlight & 6 -stop Dual I.S.
การถ่ายรูปในที่แสงน้อยเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะเวลาเดินทางท่องเที่ยว ซึ่ง 3 สิ่งที่ผมกังวล และให้ความสำคัญมาก คือ
• Noise
• ระบบกันสั่น
• การโฟกัส
เป็นที่รู้กันดีว่ากล้องที่ทำความละเอียดได้สูง มักจะไม่เก่งเรื่ืองแสงน้อยหรือการใช้ iso สูงๆ สักเท่าไร แต่สำหรับ Lumix S1R ตัวนี้ คุณภาพไฟล์ที่ใช้ iso สูงๆ ไม่ทำให้ต้องกังวลเลย การไล่โทนและการจัดการน๊อยส์ทำได้ดีมากๆ และเราสามารถใช้ระบบกันสั่นที่ทำงานร่วมกันของทั้งกล้องและเลนส์ (Dual I.S.2) มาช่วยได้ถึง 6 Stop ส่วนเรื่องการโฟกัสในที่แสงน้อยนั้น เอาง่ายๆ คือ ถ้าตาเรายังมองเห็นก็โฟกัสติดแน่นอน
DR Dynamic Range
พูดกันเป็นภาษาคนง่ายๆ คือ การเก็บโทนแสงในภาพตั้งแต่มืดสุดยันสว่างสุด ซึ่งค่านี้ยิ่งใกล้เคียงกับที่ตาเราเห็นเท่าไหร่ยิ่งดี จากสถานการณ์ในภาพ เราจำเป็นต้องวัดแสงให้ดีพอสมควร เพื่อที่จะเก็บความสว่างทั้งในส่วนที่โดนแดด(คน) และไม่โดนแดด(น้องแมว) ให้ได้ครบถ้วน
กล้อง S1R มี DR ที่สูงมาก ทำให้เวลาถ่ายมั่นใจได้ว่าค่าทุกอย่างจะออกมาใช้ได้ดี อย่างที่ผมบอกในตอนแรกว่า ให้ความรู้สึกว่ามั่นใจมาก เวลาถือกล้องและเลนส์ตัวนี้
Deep learning technology : Animal detect
ความฉลาดและความสนุกของกล้องตัวนี้อีกอย่างคือ มีระบบโฟกัสที่สามารถตรวจหาสัตว์ในภาพได้ ใช่ครับ!! ผมไม่ได้เขียนผิด ตรวจหาสัตว์จริงๆ โดยพอเราโฟกัส กล้องจะรู้เลยว่ามีสัตว์อยู่ในภาพไม่ว่าเป็นหมา แมว นก หรือแม้แต่เป็ด ไก่ ทริปนี้ที่ผมเอาไปถ่ายที่เกาะแมว สนุกมากเลย พอโฟกัสปุ๊บจะมีกรอบวิ่งตามแมวเลย ทำให้ผมเลือกได้ว่าจะโฟกัสแมวตัวไหนหรือให้ตามแมวตัวไหนก็ได้ ถ่ายแมวซนง่ายขึ้นเยอะ ผมว่าอีกหน่อยมันอาจจะฉลาดขึ้นจนรู้ชื่อแมวได้เลยก็ได้นะ
Ainoshima Island เป็น 1 ในเกาะแมวจากทั้งหมด 13 เกาะของญี่ปุ่น ซึ่งเกาะแมวส่วนใหญ่ มักเป็นเกาะที่เคยมีชาวประมงอยู่อาศัยมาก เมื่อมีการออกเรือจับปลา แล้วมีเศษซากปลาเหลือเยอะ ก็เลยทำให้มีหนูมากินปลาเยอะตามไปด้วย จึงแก้ปัญหาด้วยการเลี้ยงแมวไว้ช่วยจับหนู เวลาผ่านไป แมวนั้นก็ได้ขยายพันธุ์ออกลูกออกหลานมามากมาย แล้วทำการยึดเกาะกลายเป็นหัวหน้าชาวประมงอีกที
Body & Weather Seal
เรื่องขนาดและน้ำหนัก สำหรับกล้องและเลนส์คู่นี้ก็เป็นอีกเรื่องที่ยืนหนึ่งมาแต่ไกล ไม่มีการจับแล้วนิ้วก้อยหลุดแน่นอน เพราะไหนจะกริปหนาแน่นถือได้อย่างมั่นคงแล้ว พอมาใส่กับเลนส์ตัวนี้ ยิ่งให้ความบาลานซ์ที่ดี เวลาใช้ไม่มีการผงกหน้าหงายหลังเลย อีกเรื่องที่ชอบคือ การจัดวางปุ่มต่างๆ อยู่ในตำแหน่งที่ใช้งานได้ง่าย และเยอะมาก สามารถปรับแต่ง ได้ตามใจชอบเลยว่าอยากให้ฟังก์ชั่นไหนอยู่ตรงปุ่มไหน มีก็แค่ปุ่ม เปิด-ปิด ที่เปลี่ยนนตำแหน่งจากกล้อง Lumix รุ่นก่อนๆ ซึ่งส่วนตัวผมชอบให้อยู่ตรงตำแหน่งปุ่มชัตเตอร์เหมือนเดิมมากกว่า
ส่วน Weather Seal Dust and Splash resistant กันน้ำกันฝุ่นได้ดีมั่นใจไม่มีปัญหา ผมลองนำไปใช้ในสภาพอากาศสุดขั้วต่างๆ ไมว่าจะหนาวเย็นจนหิมะตก หรือ ร้อนชื้น + pm2.5 แบบเมืองไทย ก็ยังไม่ออกอาการงอแงให้เห็นเลย
Night mode
สำหรับการถ่ายรูปในเวลากลางคืนก็สะดวกมากขึ้น เพราะที่ปุ่มจะมีไฟ backlight ช่วยในการมองเห็น และจอก็เป็นสีแดง ช่วยปรับสายตาเวลาถ่ายกลางคืนได้ดี แถมด้วย Live view boot ช่วยให้มองภาพจัดองค์ประกอบได้เห็นชัดได้เวลากลางคืน
L-Mount
L – Mount เป็น mount ของเลนส์ในรูปแบบใหม่ที่มีการพัฒนาร่วมกัน ระหว่าง 3 ค่าย คือ Lumix , Leica และ Sigma ทำให้มีเลนส์ในตระกูลนี้ให้เลือกใช้เยอะและหลากหลายมากขึ้น
ผมได้ข่าวแว่วๆ มาว่าจะมีมากกว่า 42 ตัว ในปี 2020 เลยทีเดียว
Studio
งานของผมนอกจากออกไปถ่ายรูปตามสถานที่สวยๆ แล้ว อีกส่วนหนึ่งก็จะเป็นการถ่ายรูปในสตูดิโอโดยใช้ไฟแฟลชด้วย ซึ่งสิ่งที่ผมถนัดก็จะเป็นการถ่ายภาพอาหาร และสินค้าต่างๆ (ถ้าใครดูผลงานแล้วสนใจติดต่อได้เลยครับ ฮ่าๆ)
โดยปัญหาหลักๆ ที่มักจะพบเจอบ่อยสำหรับการทำงานในสตูดิโอคือเรื่อง
1. live view ขณะจัดของถ่าย ซึ่งการตอบสนองของกล้องรุ่นก่อนๆ ไม่รวดเร็ว กล้องบางรุ่นก็ดูได้แค่ที่หลังกล้องเท่านั้นทำให้การทำงานไม่สะดวก ยิ่งถ้าตั้งกล้องสูง ต้องปีนบันไดขึ้นไปกดชัตเตอร์ แล้วปีนลงมาดู ก็จะต้องปีนขึ้นปีนลง ทำงานไม่สะดวก
2. ความรวดเร็วในการถ่ายโอนไฟล์ขนาดใหญ่จากกล้อง กดหนึ่งทีกว่าจะได้เห็นภาพต้องรอ 5-10 วินาที อาจจะดูเหมือนไม่นาน แตถ้าถ่ายทั้งวันก็เสียเวลาไปพอสมควรเลยละ
ซึ่ง S1R แก้ปัญหาเหล่านี้ได้อย่างเนียนกริป จนลูกค้าทุกคนต้องทึ่งว่ามันทำแบบนี้ได้ด้วยหรอ
Sheer Overlay
เมื่อต่อ Tethering ควบคุมการสั่งงานผ่าน Computer ด้วยแอพ LumixTether แล้วทำงานได้ดีส่งรูปไว มี Live View ขึ้นโชว์ และมีฟังก์ชั่นช่วยเหลือในการทำงานดีมาก โดยเฉพาะฟังก์ชั่น Sheer overlay หรือที่ผมชอบเรียกกันว่า เปิดวิญญาณ ที่จะทำให้เห็นภาพลางๆ ของภาพก่อนหน้าที่เราอยากได้ เราจึงสามารถจัดของถ่ายในแต่ละเฟรมได้เหมือนกันเป๊ะ เหมาะกับการทำงานที่ต้องการความแม่นยำ รวดเร็วมาก
สิ่งหนึ่งที่ได้จาก เลนส์ LumixS 24-105 F4 Macro OIS ตัวนี้คือ การโฟกัสระยะใกล้มาก เป็นเหมือนเลนส์มาโครย่อมๆ ได้เลย ทำให้สะดวกในการใช้งานและถ่ายทอดรายละเอียดได้ดีมาก
อาจจะไม่ใช่กล้องที่หน้าตาหล่อเหลา สะพายแล้วเท่ห์ ให้ลุควินเทจอะไรมากมาย แต่ทุกครั้งที่ใช้กล้องตัวนี้แล้วมั่นใจว่าทุกรูปที่เรากดมันต้องสวยแน่นอน ถ้าเงินกับน้ำหนักไม่ใช่ปัญหา S1R คือตัวจบ
ศุภการ ศุภมงคล (Mixrinho)
ช่างภาพอิสระ เชี่ยวชาญในการถ่ายรูปอาหาร และสินค้า มีความหลงใหลส่วนตัวในการเดินทาง กาแฟ กางเกงยีนส์ และความวินเทจ จึงมีผลงานภาพถ่ายที่หลากหลายแนว นอกจากนั้นยังถ่ายทอดประสบการณ์การท่องเที่ยวที่บอกเล่าการเดินทางร่วมกับแฟนสาว ในเพจ Faloo Mi
เริ่มใช้กล้อง Lumix จากรุ่น GX8 จนปัจจุบัน Lumix S1R คือกล้องคู่กาย
ติดตามชมผลงานเพิ่มเติม IG : Mixrinho / FB : Faloo Mi / www.Mixrinho.com
ผลิตภัณฑ์แนะนำ
DC-S1RMGA-K
กล้อง DSLM (Digital Single Lens Mirrorless) แบบฟูลเฟรมที่มีเซ็นเซอร์ MOS ความละเอียด 47.3 ล้านพิกเซล และโหมดความละเอียดสูง 187 ล้านพิกเซล ชุดเลนส์ 24-105 มม.
DC-S1RGA-K
กล้อง DSLM (Digital Single Lens Mirrorless) แบบฟูลเฟรมที่มีเซ็นเซอร์ MOS ความละเอียด 47.3 ล้านพิกเซล และโหมดความละเอียดสูง 187 ล้านพิกเซล