สิ่งที่แม่ทุกคนควรรู้
ความจริงเกี่ยวกับวิธีการดูแลรักษาเสื้อผ้าเด็กทารก
เสื้อผ้าเด็กของทารกจะสกปรกได้ง่ายเนื่องจากเด็กมักน้ำลายไหล ทำอาหารหก และอาเจียนอยู่บ่อยครั้ง
แม่หลายคนใช้เวลานานในการซักเสื้อผ้าของลูกๆ เพื่อรักษาความสะอาดและสุขอนามัย แต่ก็ยังกังวลว่าอาจมีเชื้อโรคหลงเหลืออยู่บนเสื้อผ้า
แต่พวกเธอจะไม่ต้องกังวลอีกต่อไปแล้ว มาดูกันว่าวิธีที่ดีที่สุดในการรักษาเสื้อผ้าให้สะอาดยิ่งขึ้นคืออะไร
ดร. Hiroki KOURAI
ผู้เชี่ยวชาญด้านการกำจัดแบคทีเรีย
Hiroki Kourai จบปริญญาวิศวกรรมศาสตรดุษฎีบัณฑิตและเริ่มทำงานที่มหาวิทยาลัยโทคุชิมะ ก่อนจะเข้ารับตำแหน่งสมาชิกคณะกรรมการมาตรฐานการป้องกันแบคทีเรีย เชื้อรา และไวรัส (Antibacterial, Antifungal and Antiviral Standards Committee) ที่องค์กรด้านมาตรฐานนานาชาติ (International Organization for Standardization) และเป็นสมาชิกในคณะกรรมการของกระทรวงศึกษาธิการ วัฒนธรรม การกีฬา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของญี่ปุ่น ปัจจุบันเขาเป็นที่ปรึกษาให้กับสมาคมหน่วยงานป้องกันแบคทีเรียและเชื้อรา (The Society for Antibacterial and Antifungal Agents) ในประเทศญี่ปุ่น
วิธีซักเสื้อผ้าทารกที่ดีที่สุดคือการซักด้วยมือจริงหรือไม่
การซักผ้าด้วยมือเป็นวิธีที่ดีในการรักษาเสื้อผ้าของเด็กทารกให้สะอาด แต่ไม่นับว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุด
การซักด้วยมือทำให้แม่ๆ อุ่นใจเพราะได้เห็นขั้นตอนการซักด้วยตนเอง แต่ถึงแม้เสื้อผ้าจะดูสะอาด สิ่งปรกหรือแบคทีเรียที่มองไม่เห็นก็อาจยังหลงเหลืออยู่
ลูกน้อยของฉันชอบหยิบของทุกอย่างใส่ปาก ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นเสื้อผ้าและถุงเท้า ฉันจึงกังวลเรื่องความสะอาดของเสื้อผ้าเหล่านั้น
แม้เสื้อผ้าจะดูสะอาดหลังการซัก แต่สิ่งสกปรกที่มองไม่เห็นยังคงอยู่
สิ่งสกปรกที่มองไม่เห็นหมายถึงคราบต่างๆ เช่น ไขมันนมและไขจากผิวหนังที่ซึมลึกลงไปในเส้นใยผ้า นมที่ถูกบ้วนออกมามีไขมัน และเด็กทารกจะมีเหงื่อออกมากเนื่องจากกระบวนการเผาผลาญที่สูง ทั้งไขมันและไขผิวหนังจากเหงื่อจะซึมลึกลงไปในเส้นใยและหลงเหลืออยู่ในเนื้อผ้า คราบไขมันเหล่านี้สามารถซักออกด้วยมือโดยใช้น้ำเย็นได้ยากเนื่องจากไขมันจะเริ่มละลายในน้ำที่อุณหภูมิประมาณ 40°C เท่านั้น
มีเชื้อโรคที่มองไม่เห็นด้วยหรือไม่
นอกจากนี้ยังมีแบคทีเรียและสารก่อภูมิแพ้ ซึ่งไม่สามารถกำจัดได้ด้วยการซักธรรมดา
แบคทีเรียจะถูกกำจัดได้ที่อุณหภูมิอย่างน้อย 60°C เท่านั้น ซึ่งหมายความว่า จำเป็นต้องใช้น้ำร้อน
ดังนั้น จึงควรใช้น้ำร้อนในการซักผ้าทุกครั้งเพื่อให้มั่นใจว่าแบคทีเรียที่มองไม่เห็นซึ่งอยู่ฝังอยู่ในเนื้อผ้าจะถูกกำจัดออกไป
สำหรับสารก่อภูมิแพ้นั้น Allergy UK องค์กรประเมินภายนอกที่เชื่อถือได้ ได้ทำการรับรองผลิตภัณฑ์ที่สามารถกำจัดสารก่อภูมิแพ้ไว้แล้ว คุณสามารถดูเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์
ฉันเกรงว่าน้ำร้อนจะทำให้เสื้อผ้าเสียหาย เช่น ทำให้สีเปลี่ยนไปหรือทำให้เสื้อผ้าหด
นั่นก็จริง น้ำร้อนที่อุณหภูมิสูงกว่า 60°C สามารถใช้ได้กับผ้าฝ้ายสีขาว
แต่เสื้อผ้าสีหรือเสื้อผ้าที่บอบบาง หรือมีการตกแต่ง เช่น พู่ จะไม่สามารถซักด้วยน้ำร้อนได้ ยิ่งไปกว่านั้น การซักผ้าด้วยน้ำร้อนยังใช้เวลานานและใช้ไฟฟ้ามากกว่าการซักด้วยน้ำเย็นตามปกติด้วย
บางครั้งเสื้อผ้าที่แห้งแล้วมีกลิ่นเหม็นหลังการซัก อะไรคือสาเหตุและฉันจะแก้ปัญหานี้ได้อย่างไร
กลิ่นเหม็นนี้เกิดจากแบคทีเรียซึ่งไม่สามารถกำจัดได้ด้วยรอบการซักแบบธรรมดา
แบคทีเรียบนเสื้อผ้าจะเพิ่มจำนวนขึ้นในสภาพแวดล้อมบางประการ และอากาศร้อนชื้นในประเทศของคุณก็เป็นสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสำหรับการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย
ฉันตากเสื้อผ้าของลูกให้แห้งโดยใช้แสงแดด แสงแดดที่ได้รับนี้เพียงพอต่อการกำจัดแบคทีเรียและเชื้อโรคหรือไม่
แสงอัลตราไวโอเลตสามารถทำหน้าที่ฆ่าเชื้อได้เป็นอย่างดี แต่จะมีผลกับเฉพาะพื้นผิวส่วนที่ได้รับแสงอาทิตย์เท่านั้น
ฝน เมฆ และสภาพอากาศอื่นๆ อาจบดบังแสงอาทิตย์และทำให้เสื้อผ้าแห้งไม่สนิท สภาวะเหล่านี้จะทำให้ประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อของแสงอาทิตย์ลดลง ซึ่งนำไปสู่ความกังวลว่าแบคทีเรียอาจหลงเหลืออยู่
มีวิธีการฆ่าเชื้อที่มีประสิทธิภาพที่แนะนำหรือไม่
ผมแนะนำให้ใช้ Blue Ag+ เทคโนโลยีการป้องกันแบคทีเรียใหม่ล่าสุดในเครื่องซักผ้า
การซักผ้าในน้ำร้อนด้วยมือเป็นงานประจำวันที่น่าเบื่อหน่าย และเสื้อผ้าเด็กทารกส่วนมากมักมีสีสันสดใสและประดับพู่หรือกระดุม ซึ่งเป็นเสื้อผ้าที่ไม่เหมาะสำหรับการซักด้วยน้ำร้อน ผมจึงขอแนะนำให้ใช้ Blue Ag+ ซึ่งใช้งานได้ในการซักด้วยน้ำเย็นตามปกติ และยังมีประสิทธิภาพในการป้องกันแบคทีเรียที่เหนือชั้นซึ่งคุุณสามารถวางใจได้
เทคโนโลยีนี้ช่วยให้คุณแม่ที่มีงานยุ่งสามารถซักผ้าเสร็จได้อย่างง่ายดาย
ฉันควรเป็นห่วงไหมว่าซิลเวอร์ไอออน (Ag+) อาจทำร้ายผิวอันบอบบางของลูก
ซิลเวอร์ไอออนมีความปลอดภัยและเชื่อถือได้ ธาตุเงินมีคุณสมบัติในการป้องกันแบคทีเรียและใช้เพื่อทำความสะอาดภาชนะและช้อนส้อมกันอย่างแพร่หลายมานานแล้ว
เงินที่ละลายในน้ำจะผลิตซิลเวอร์ไอออน ซึ่งสามารถกำจัดแบคทีเรียได้โดยไม่ส่งผลกระทบต่อร่างกายมนุษย์ มีการใช้ซิลเวอร์ไอออนอย่างแพร่หลายในสเปรย์ป้องกันแบคทีเรียสำหรับร่างกายและผลิตภัณฑ์ป้องกันแบคทีเรียที่ใช้ในครัวและห้องน้ำ
รังสีอัลตราไวโอเลตที่สามารถกำจัดแบคทีเรีย เป็นอันตรายต่อผิวหนังหรือไม่?
Blue Ag+ ใช้เฉพาะรังสียูวีที่ปลอดภัยเท่านั้น
รังสีอัลตราไวโอเลตมีสามประเภท ยูวีบีและยูวีซีเป็นรังสีอัลตราไวโอเลตพลังสูงซึ่งเป็นอันตรายต่อร่างกายมนุษย์ แต่รังสียูวีเอนั้นปลอดภัยสำหรับมนุษย์และเครื่องซักผ้า Panasonic ใช้เพียงรังสียูวีเอเท่านั้น
การซักผ้าด้วยเครื่องสามารถกำจัดแบคทีเรียได้ดีพอจริงหรือ
เครื่องซักผ้า Panasonic ที่มี Blue Ag+ ช่วยให้คุณวางใจได้อย่างแน่นอน
Blue Ag+ ใช้ซิลเวอร์ไอออนและแสงยูวีเอ ในการผลิตอนุมูล OH ซึ่งสามารถฆ่าแบคทีเรียได้อย่างมีประสิทธิภาพจากปฏิกิริยาระหว่างซิลเวอร์ไอออนและแสงยูวีเอ แม้ก่อนหน้านี้จะไม่ีมีเครื่องซักผ้าที่มีประสิทธิภาพในการกำจัดแบคทีเรีย แต่ Panasonic ก็ทำสำเร็จ
ผลที่ได้คือสามารถกำจัดแบคทีเรียได้ 99.99%* ในการซักด้วยน้ำเย็น
ซิลเวอร์ไอออนได้รับการรับรองจากองค์กรภายนอกว่าสามารถกำจัดแบคทีเรียได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
เป็นที่ทราบกันมานานแล้วว่าเงินเป็นสารฆ่าแบคทีเรียที่ปลอดภัย แม้แต่องค์กรภายนอกยังให้การรับรองว่า ซิลเวอร์ไอออน ซึ่งได้มาจากเงินนั้นมีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงในการกำจัดแบคทีเรีย จากการค้นคว้าวิจัยมาหลายปี ผมขอแนะนำให้ซิลเวอร์ไอออนเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการกำจัดแบคทีเรีย Blue Ag+ ที่มีในเครื่องซักผ้า Panasonic ใช้ซิลเวอร์ไอออนเหล่านี้ในการฆ่าแบคทีเรียโดยไม่ต้องใช้น้ำร้อน ประโยชน์ที่ดีที่สุดข้อหนึ่งของ Blue Ag+ คือประสิทธิภาพในการกำจัดแบคทีเรียที่เชื่อถือได้มากกว่า โดยใช้อนุมูล OH ซึ่งเกิดจากการฉายแสงยูวีเอไปยังซิลเวอร์ไอออน คุณสมบัตินี้จึงเหมาะสำหรับคุณแม่ที่มีงานยุ่งและต้องการกำจัดแบคทีเรียบนเสื้อผ้าอย่างง่ายดายโดยการซักผ้าด้วยเครื่อง
การรับรองประสิทธิภาพในการกำจัดแบคทีเรียด้วย Blue Ag+
*รับรองโดย Japan Food Research Laboratories หมายเลขรายงานการทดสอบ: 19085536001-0201 *อัตราการกำจัดแบคทีเรีย: สตาฟิโลค็อกคัส ออเรียสสูงสุด 99.99%, เอสเชอริเชีย โคไลสูงสุด 99.99%
ผลิตภัณฑ์แนะนำ