Sensu วิธีการคลายร้อนของญี่ปุ่น
Sensu เป็นพัดญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมที่คุณสามารถพับเก็บได้อย่างกระทัดรัดและเมื่อคุณต้องการใช้มันเพื่อคลายร้อนคุณก็จะสามารถกางมันออกได้อย่างง่ายดาย Sensu นั้นถูกใช้อย่างแพร่หลายในหมู่คนทุกเพศทุกวัย หนึ่งในคุณสมบัติหลักที่ทำให้Sensu นั้นได้รับความนิยมก็คือรูปภาพเท่ห์ๆเมื่อคุณกางมันออกมาใช้ Sensu ไม่ได้เพียงแค่ช่วยให้คุณรู้สึกเย็น มันยังดูทันสมัยอีกด้วย
ประวัติความเป็นมาที่ยาวนานกว่า 1000 ปี
จุดเริ่มต้นของพัดนี้ ย้อนรอยกลับไปเมื่อประมาณ 1200 ปีที่แล้ว เมื่อพัดที่ทำจากไม้อันแรกได้ถูกสร้างขึ้นจากไม้ชื่อ Hiougi หลังจากที่กระดาษถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายขึ้น กระดาษก็ถูกนำมาใช้แปะทับบนโครงที่ทำจากไม้และถูกเรียกว่า Sensu และเป็นพัดที่เราใช้กันมาจนถึงทุกวันนี้ ในศตวรรษที่ 17 ความนิยมของพัดญี่ปุ่นได้แพร่กระจายไปยังยุโรป และก็มีการกำเนิดพัดแบบใหม่ อาทิเช่น อีวานเทล พัดที่มีการใช้ขนนกและผ้าไหม ที่เป็นที่นิยมในหมู่ขุนนางหญิงของราชวงศ์หลุยส์ ประเทศฝรั่งเศส
การเสาะหาความสง่างามที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพ
Sensu แบบดั้งเดิมนั้นจะถูกทำขึ้นด้วยมือโดยช่างฝีมือ มันมีทั้งหมดประมาณ 80 ขั้นตอนในการจะทำพัดแต่ละอัน แต่ส่วนที่สำคัญที่สุดของการทำพัดก็คือการขึ้นโครงพัดและการวาดลายลงบนพัด โครงของพัดนั้นปกติจะถูกสร้างด้วยไม้ไผ่ โดยที่จำนวนก้านของพัดนั้นจะอยู่ในช่วงใดก็ได้จาก 10ก้านไปจนถึง 30ก้านขึ้นอยู่กับพื้นที่ของตัวพัด ช่างฝีมือจะทำการฝนให้แต่ละก้านมีขนาดที่เท่าเทียมกัน เสร็จแล้วเขาจะมัดปลายของพัดเข้ากับตัวยึดที่เรียกว่า Kaname ด้วยแรงที่เหมาะสม พัดที่สร้างเสร็จแล้วจะทนทานและสามารถเปิดปิดได้อย่างง่ายดาย หลังจากนั้นเขาจะแปะกระดาษที่ถูกพับเป็นรอยหยักลงบนโครงไม้นี้ และรอยพับแต่ละรอยนี้ก็จะกลายเป็นปีกของ Sensu เมื่อคุณพัด มันจะสร้างกระแสลมหมุนเวียนในอากาศ ที่จะสร้างลมอย่างมีประสิทธิภาพด้วยพลังงานที่น้อยที่สุด บนเนื้อที่ว่างบนกระดาษของพัด คือพื้นที่สำหรับให้ช่างฝีมือได้ใช้จินตนาการในการวาดลวดลายลงบนพัด
เขาจะจินตนาการไปถึงตอนที่แผ่นกระดาษนี้จะถูกจีบในการทำพัดก่อนจะเริ่มลงมือวาดลวดลายอย่างประณีตลงบนตัวกระดาษ ในบางครั้งจะมีการใช้แผ่นทองหรือใบเงินหรือแม้แต่ภาพพิมพ์ในการตกแต่งพัดด้วย มีช่างฝีมือเพียงไม่กี่คนที่จะสามารถสร้างพัดที่มีคุณภาพและรายละเอียดสูงเหล่านี้ได้ และนี่ก็คือหนึ่งในงานฝีมือแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่ทักษะของช่างฝีมือนั้นจะถูกสะท้อนออกมากับผลงานของเขาอย่างแท้จริง
Sensu การประยุกต์ใช้ของการแสดงศิลปะแบบดั้งเดิม
ตั้งแต่สมัยโบราณ พัดเหล่านี้นอกจากจะถูกใช้สำหรับคลายร้อนแล้ว มันยังถูกใช้สำหรับการแสดงออกถึงความตั้งใจหรืออารมณ์โดยไม่ใช้คำพูด เช่น การใช้เพื่อจับจังหวะในดนตรีหรือการใช้เพื่อกวักเรียกคน พัดนี้เป็นรากฐานที่สำคัญของศิลปะดั้งเดิมของญี่ปุ่นอย่างเช่น Kabuki (คาบุกิ) และ Noh (โน) โน ยกตัวอย่างเช่นในKabuki (คาบุกิ) จะมีการใช้ Sensu ไปควบคู่กับเครื่องแต่งกายให้สอดคล้องกับเนื้อเรื่อง ซึ่งสีสันอันสดใสของ Sensu จะช่วยให้การแสดงเจิดจรัสยิ่งขึ้น เมื่อพัดถูกปิด มันจะดูงามเงาสวยงาม แต่เมื่อคุณกางมันออกคุณจะได้เพลิดเพลินไปกับรูปแบบลวดลายที่หรูหรา